เสียง : ไทย

6.8

60 Minuten (2024) 60 นาที เป็นผลงานการสร้างของ โอลิเวอร์ เคียล นักสร้างภาพยนตร์ชาวเยอรมัน ที่รับหน้าที่ทั้งเขียนและกำกับเองทั้งหมด จะบอกเล่าเรื่องราวของ ออกตาวิโอ ที่รู้ว่าตัวเองมีเวลาเพียง 60 นาทีในวันเกิดของลูกสาว ก่อนที่จะไม่มีโอกาสเลี้ยงดูลูก เพราะสิทธิทั้งหมดจะตกไปอยู่ที่เมียเก่าทั้งหมด นำแสดงโดย เอมิเลโอ ซาคราญา และนักแสดงท่านอื่น ๆ ที่ร่วมมอบความสนุก บู้ระห่ำ ในครั้งนี้
เป็นเรื่องราวของ ออกตาวิโอ (รับบทโดย เอมิเลโอ ซาคราญา) นักมวยหมุ่มหล่อดาวรุ่ง ซึ่งออกตาริโอกำลังจะขึ้นชกนัดที่สำคัญมาก แต่นัดสำคัญที่ต้องขึ้นชกดันไปตรงกับวันเกิดของลูกสาว ในระหว่างรอขึ้นชกทางเมียเก่าได้โทรมาขู่เขาว่า ขณะนี้ลูกสาวกำลังรอเขาอยู่ หากออกตาริโอมาไม่ทันภายใน 1 ชั่วโมง ภรรยาเก่าจะไปฟ้องร้องสิทธิเพื่อที่จะเลี้ยงดูลูกสาวเพียงคนเดียวเท่านั้น เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น ออตาวิโอยอมทิ้งทุกอย่าง ยอมไม่ขึ้นชกนัดสำคัญ เพื่อกลับไปหาลูกสาวภายใน 60 นาทีให้ทันให้ได้ แต่เรื่องราวไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เมื่อมีการชกเกิดขึ้นก็ย่อมมีการพนัน และเหล่ามาเฟียมากมายก็ลงพนันกับตัวออตาวิโอไว้ไม่ใช่น้อย ดังนั้นเหล่ามาเฟียไม่ยอมให้ออตาวิโอทิ้งสังเวียนและบังคับให้ขึ้นชก และเรื่องราววุ่น ๆ ก็เริ่มต้นขึ้น ซึ่งระหว่างทางที่เขาวิ่งไปหาลูกสาว ระหว่างทางก็เต็มไปด้วยความอันตรายจากกลุ่มมาเฟียที่ออกตามล่าตัวเขา เรื่องราวทั้งหมดจะจบลงอย่างไร ทุกท่านเข้ามารับชมด้วยตาตัวเองกันได้เลย
สำหรับเรื่องนี้ ตัวหนังค่อนข้างเดินเรื่องเร็ว ไม่ค่อยเล่าถึงเบื้องหลังของตัวละครเท่าไหร่ ส่วนเนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อน เป็นบทง่าย ๆ คนดูก็คงจะเดาทางได้ตั้งแต่แรก ๆ แต่ก็ต้องของชื่นชมตัวพล็อตเรื่องที่ค่อนข้างเข้มแข็ง กับโจทย์ที่วางไว้คือ การไปหาลูกสาวให้ทันภายใน 1 นาที ส่วนใหญ่จะเป็นฉากบู๊กระจายจนแทบจะไม่ได้หยุดพักหายใจกันเลย เพราะตัวพระเอกต้องหลบหนีพวกมาเฟียที่ตามล่าจากที่เขาไม่ขึ้นสังเวียน ส่วนของประเด็นดราม่าไม่ค่อยมีได้เด่นมากมาย อันที่จริงควรเพิ่มฉากดราม่าเข้ามาอีกนิดคงจะทำให้ตัวหนังสมบูรณ์มากขึ้น ในส่วนการแสดงต้องยกให้ตัวพระเอกเลย เพราะตัวพระเอกทำออกมาได้ดีมาก ดีจนตัวละครอื่น ๆ แทบจะไม่มีอะไรให้น่าจดจำเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายก็คืองานโปรดักชั่น ภาพแสงสี ฉากต่าง ๆ ก็ทำออกมาได้ดีตามมาตราฐานทั่วไปของ Netflix ดังนั้นคอหนังบู๊ แอ็กชัน หาดูได้ เพราะตัวหนังดูได้สนุก ๆ เพลิน ๆ อาจจะไม่ถึงกับประทับใจเท่าไรก็ตาม ซึ่งนี่ก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น
คะแนนภาพรวมอยู่ที่ 5.0/10