Society of the Snow (2024) หิมะโหดคนทรหด
Society of the Snow (2024) หิมะโหดคนทรหด ภาพยนตร์ ดราม่า / ระทึกขวัญ ฉายครั้งแรกในเดือน มกราคม 2024 หนังที่ได้แรงบรรดาลใจมาจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในเดือน ตุลาคม ปี 1972 เมื่อเครื่องบินกำลังบินข้ามเทือกเขาแอนดิสได้ประสบอุบัติเหตุ ทำให้พวกเขาต้องตกอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้ายที่สุดในโลก ฝีมือการกำกับของ เจ. เอ. บาโยนา นักแสดงนำ เอนโซ โวกรินชิก, อากุสติน ปาร์เดลยา, และมาติอัส เรกัลต์
หนังดราม่าระทึกขวัญสุดทรหดของกลุ่มคนที่หาทางประคบประคองกัน เพื่อฟันฝ่าอุปสรรคเอาตัวรอดจากดินแดนหิมะอันหนาวเหน็บ หนังเล่าถึงเรื่องราวของเครื่องบินของกองทัพอากาศอุรุกกวัย เครื่องเช่าเหมาลำเที่ยวบิน 571 ออกจากมอนเตวิเดโอ, อุรุกวัย โดนมีลูกเรือ 5 คน และผู้โดยสาร 40 คน เป็นนักกีฬารักบีสมัครเล่นสโมสร โอลด์ คริสเตียนกับเพื่อน ๆ และคนในครอบครัวจะเดินทางไปเล่นโชว์ที่ซานดิเอโก ประเทศชิลี แต่ด้วยสภาพอากาศอันเลวร้ายทำให้เครื่องต้องจอดพักที่เมนโดซา ประเทศอาร์เจนตินาตลอดทั้งคืน พอบ่ายวันต่อมาก็ได้ออกเดินทางต่อ โดยตั้งใจจะบินเลี่ยงใจกลางเทือกเขาแอนดีส ผ่านลูกภูเขาที่ต่ำกว่าเพื่อความปลอดภัย แต่พอเครื่องขึ้นบินสักชั่วโมงกว่า ๆ นักบินที่เข้าใจตำแหน่งของตัวเองผิดก็เริ่มบินต่ำ โดยได้รับอนุญาตจากศูนย์ควบคุมการบิน ทำให้บินไม่พ้นสันเขาและเกิดชนกับภูเขาลูกหนึ่ง ปีกทั้งสองข้างและส่วนหางหลุดจากแรงกระแทก ส่วนหน้าของเครื่องไถลลงมาตามภูเขาแล้วหยุดในหุบเขาที่ระดับความสูงราว ๆ 11,500 ฟุต การกระแทกได้คร่าชีวิตคนไปถึง 12 คน เหลือผู้รอดชีวิตและได้รับบาดเจ็บรวม 33 คน แต่ 5 คนไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวแล้วได้จากไปในคืนแรก สัปดาห์ต่อมาผู้หญิงอีกคนก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้ตายจากไป ส่วนผู้รอดชีวิตที่เหลืออีก 27 คนต่างเชื่อว่าน่าจะได้รับความช่วยเหลือไม่วันใดก็วันหนึ่ง ด้วยความหวังที่จะได้กลับบ้าน พวกเขาจะสามารถเอาตัวรอดแล้วกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยได้หรือไม่ สามารถติดตาม ลุ้นระทึกไปกับพวกเขาได้ที่นี่
หนังที่ได้อ้างอิงจากเหตุการจริง ผู้ชมหลายคนที่เคยอ่านข่าวมาก่อนก็น่าจะพอทราบถึงจุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุดของเหตุการณ์ดังกล่าวมาบ้างแล้วไม่มากก็น้อย กลวิธีนำเสนอของหนังก็ดีมาก เป็นองค์ประกอบสำคัญในการตรึงให้ผู้ชมสามารถใจจดใจจ่ออยู่กับหนังได้ตลอดทั้งเรื่อง โดยหนังเริ่มต้นด้วยการเล่าเรื่องราวความสนิทสนมกลมเกลียวของนักกีฬารักบี้กลุ่มหนึ่งไว้ในช่วงต้นของหนัง ต่อมาหนังได้สร้างและจำลองสถานการณ์ในเหตุการณ์ที่รันทดและหดหู่ บีบคั้นอารมณ์คนดูขึ้นเรื่อย ๆ สามารถใส่อารมณ์และสภาวะจิตใจของมนุษย์เข้าไปในหนังได้อย่างเหมาะเจาะ เทคนิคพิเศษในหนังก็ทำออกมาได้แบบแนบเนียน ฉากก็ทำออกมาได้แบบยอดเยี่อม ไม่ลืมแม้แต่ที่จะใส่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ลงไปอย่างครบถ้วน คอหนังดราม่าไม่ควรพลาด ซึ่งคะแนนของหนังเรื่องนี้อยู่ที่ 9.5/10
ความคิดเห็น