Hell Camp Teen Nightmare (2023) ค่ายนรก ฝันร้ายวัยรุ่น
Hell Camp Teen Nightmare (2023) ค่ายนรก ฝันร้ายวัยรุ่น เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับ สตีฟ คาร์ติซาโน ผู้ก่อตั้งโครงการบำบัดรักษาถิ่นทุรกันดาร Challenger ซึ่งเป็นองค์กรที่ลักพาตัววัยรุ่นเอาแต่ใจออกจากเตียง (ด้วยเงินเล็กน้อยของพ่อแม่) จากนั้นบังคับให้พวกเขาใช้เวลา 63 วันเดินผ่านป่าอันเดือดของยูทาห์ และยังต้องประสบกับความทรมานทั้งกายและใจจนพังทลายลง จนกระทั่งพวกเขาพบบางสิ่งที่ใกล้เคียงกับศักดิ์สิทธิ์ทางวิญญาณ และก็ไม่เคยทำอะไรเลวร้ายอีกเลย ซึ่งสารดีเรื่องนี้ตีแผ่จากผู้อำนวยการลิซ่า วิลเลียมส์
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจากบทสัมภาษณ์จาก นาดี เธอได้บอกเล่าเรื่องราวในคืนนั้น เป็นคืนที่เธอตั้งใจจะเข้านอน และคิดว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นไปโรงเรียน ซึ่งตอนนั้นเธอมีอายุเพียง 15 ปี ในบ้านที่มืดสนิท พ่อกับแม่ของเธอไม่อยู่บ้าน เธอถูกปลุกให้ตื่นขึ้นโดยชายสองคนที่ยืนอยู่ข้างเตียง พวกเขาตัวใหญ่เหมือนคนที่อยู่ตามป่าเขา พวกเขาบอกกับเธอว่าให้ลุกขึ้นไปแต่งตัวและมากับเขา ทั้งนี้เขายังบอกอีกว่าถ้าพยายามหนีจะใส่กุญแจมือเธอทันที ในช่วงตีสามครึ่งพวกเขาดึงตัวเธอ พร้อมกับการใช้กำลังเพื่อพาเธอออกจากบ้าน เธอถูกพาไปที่สนามบินเพื่อไปเช็คอินเที่ยวบินที่ประตู ซึ่งเป็นเครื่องบินส่วนตัวที่ถูกจ้างมา หลังจากลงเครื่องนาดีขึ้นรถไปกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า แมทแคท และผู้ชายอีกหนึ่งคนที่เรียกตัวเองว่า แมทด็อก พวกเขาขับรถพาเธอไปที่กลางทะเลทราย ซึ่งมีกองไฟที่ถูกเผาไหม้อยู่ไม่ไกล พวกเขายื่นซองเปล่าให้กับเธอ โดยมีข้อความที่อยู่ข้างหลัง ความว่า “นาดีลูกรัก แบบนี้ดีที่สุดแล้ว เรารักลูกนะ จากพ่อกับแม่” ซึ่งตอนนั้นเธอก็ได้รู้ว่าพ่อกับแม่ของเธอได้จ่ายเงินให้กับคนพวกนี้ เพื่อมาลักพาตัวเธอเข้าโครงการนี้ หลังจากจบบทสนทนากับนาดีจบลง ภาพก็ตัดมาที่เหตุการณ์จริงของโครงการนี้ที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อบำบัดเยาวชน สารคดีก็พาเราไปพบกับเรื่องราวในช่วงนั้นที่เยาวชนเริ่มต่อต้านในยุค 80 เป็นช่วงเวลาที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลง มีความกังวลที่ฝังลึกว่าเยาวชนของอเมริกากำลังเดินผิดทาง ในประเทศมียาเสพติดและแอลกอฮอล์ที่กำลังระบาดไปทั่ว จนทำให้คนในประเทศไม่ปลอดภัย ประเทศกำลังเผชิญกับวิกฤตในการรับมือกับบุตรหลาน ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ไม่ได้ผล พ่อแม่เด็กบางคนที่จนตรอกจึงส่งลูก ๆ ที่กำลังเป็นวัยรุ่นและประสบกับปัญหา ไปยังที่ที่เรียกว่าค่ายบำบัดในที่ที่ห่างไกล โครงการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเด็ก ๆ ให้เลิกนิสัยที่ไม่ดี พฤติกรรมต่อต้าน โดยเป็นผลงานความคิดของ สตีฟ คาร์ติซาโน อดีตจ่าในกองทัพอากาศ ซึ่งเค้าให้สัมภาษณ์ว่า “สังคมเราทุกวันนี้มีหลายคนหาข้ออ้างให้เด็ก ๆ จริง ๆ แล้วเด็ก ๆ จะต้องได้เรียนรู้ว่าพวกเขาต้องรับผิดชอบชีวิตของตัวเอง และรับผิดชอบผลจากการกระทำที่พวกเขาก่อ” ซึ่งสตีฟรู้วิธีว่าจะแก้ไขปัญหาในครอบครัวได้อย่างไร ซึ่งสตีฟเค้าเป็นคนที่ถ้าไม่เป็นที่รักก็เป็นที่ชัง เค้ามีความคิดที่ล้ำหน้ากว่าคนในยุคนั้น เค้ามีไอเดียที่ยอดเยี่ยม จนเขาได้ก่อตั้งมูลนิธิชาเลนเจอร์ ซึ่งค่ายนี้ถูกอ้างว่าเป็นการเปลี่ยนเด็กเลวให้เป็นเด็กดีได้ โดยผ่านประสบการณ์อันแสนสาหัส เด็ก ๆ จะถูกดัดนิสัยจนกลับมาเป็นคนดีได้อีกครั้ง แต่ปัญหาอยู่ที่วัยรุ่นบางคนไม่ได้กลับจากค่ายนี้ เพราะพวกเขาต้องไปอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายในพื้นที่ที่ทางสหรัฐฯ เข้าไปช่วยก็ไม่ถึง ดูเหมือนว่าการเอาตัวรอดจากวินัย และความทารุณที่เหมือนมีเส้นบางบางกั้นอยู่ เรื่องราวภายในค่ายจะเป็นอย่างไรต้องไปติดตามกัน
หลังจากรับชมจบคะแนนที่ให้คือ 8/10 คะแนน ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ สตีฟ ที่ก่อตั้งโครงการบำบัดในถิ่นทุรกันดารให้วัยรุ่นที่เอาแต่ใจกลับกลายมาเป็นเด็กดีอีกครั้ง หลังจากที่เรารับชมสารคดีนี้จบ เห็นได้ว่าด้านดีคือการต้องการเปลี่ยนเยาวชนให้อยู่ในกรอบ แต่การใช้วิธีการที่โหดร้ายและทารุณ อาจจะทำให้เด็กฝังใจและต้องเผชิญกับความทรงจำนั้น และโครงการนี้เป็นโครงการที่ได้เงินหลายร้อยล้าน ซึ่งมองว่านี่เป็นเพียงการหาเงินจากปัญหาของครอบครัวและเยาวชน การตีแผ่เรื่องราวด้านมืดของโครงการนี้ หลายคนมองว่าเป็นอะไรที่สะเทือนใจมาก ๆ แทบนึกไม่ออกเลยว่าถ้าเป็นหนึ่งในนั้นจะทนทุกข์และผ่านมันไปได้หรือไม่ ใครที่ชื่นชอบสารคดีเรื่องราวแนวนี้ต้องห้ามพลาด เพราะมันจะสะท้อนสังคมอีกหลาย ๆ ด้าน การถูกชักจูงจากสังคมครอบครัวที่หลงเชื่อ เยาวชนที่ถูกทารุณในโครงการนี้ เป็นกระจกสะท้อนความเป็นมนุษย์ ได้อย่างโหดร้ายมาก ๆ
ความคิดเห็น