Never Back Down 2 The Beatdown (2011) เนฟเวอร์ แบ็ค ดาวน์ สู้โค่นสังเวียน
Never Back Down 2 The Beatdown (2011) เนฟเวอร์ แบ็ค ดาวน์ สู้โค่นสังเวียน ภาพยนตร์กีฬา, ดราม่า, แอ็กชัน หนังสนุกสัญชาติอเมริกัน เข้าฉายครั้งแรกปี 2011 เรื่องราวของนักชกสี่คนที่มีที่มาต่าง ๆ กัน และมารวมตัวกันเพื่อฝึกฝนการชกมวยกับอดีตดาวรุ่ง MMA แต่สุดท้ายก็ต้องต่อสู้กันเอง นำแสดงโดย ดีน เกย์เยอร์, อเล็กซ์ เมอร์ราซ, อีวาน ปีเตอร์, และ ทอดด์ ดัฟฟี่ ผลงานการกำกับของ ไมเคิล ไจ ไวท์
เรื่องราวของ 4 หนุ่มนักชก เริ่มต้นโดยแซคนักมวยสมัครเล่น ที่ถูกต่อยจนตาเริ่มมีปัญหาต้องเข้าผ่าตัด จนหมอเตือนแซคว่าอย่าให้ถูกกระทบกระเทือนอีกไม่งั้นอาจจะต้องตาบอด แต่แซคยังเลือกที่จะชกมวยต่อไป ต่อมาที่ไมค์นักศึกษาที่เขามีปมทั้งโกรธและอายที่พ่อเป็นเกย์ แถมทิ้งแม่ไปอยู่กับผู้ชาย ทิมเด็กหนุ่มที่มีฐานะที่ค่อนข้างยากจน จนแม่ต้องไปทำงานบาร์เพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว และจัสตินคนขายหนังสือการ์ตูนที่ถูกพวกอันธพาลรุมซ้อม ส่วนเคสผู้ผู้ซ้อมให้กับทิมคือ อดีตนักมวยอาชีพที่เคยติดคุกและอยู่ระหว่างทัณฑ์บน เคสได้สอนศิลปะการต่อสู้ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเขามีทักษะท่าไม้ตายในการต่อสู้ และเคสยินดีสอนให้ทั้ง 4 คน ต่อมาตำรวจมาเจอเคสหลังจากนั้นได้สั่งให้เคสไปจากโรงยิม ดังนั้นเขาจึงเลิกสอนมวยไปเพราะไม่อยากกลับไปติดคุกอีก แซคกับเพื่อน ๆ ไปหาโรงงานเก่าเปิดเป็นโรงยิมให้เคสได้ใช้สอนอีกครั้ง ต่อมาจัสตินได้กับล้างแค้นอันธพาล เคสรู้เรื่องจึงให้จัสตินพักการซ้อมเพื่อลงโทษ เหตุผลเพราะเคสไม่อยากให้ตำรวจตามมาเจอเขาอีกนั่นเอง การฝึกซ้อมทั้ง 4 คนที่เหลือยังคงทำเหมือนเดิมปกติ วันหนึ่งแม็กซ์เพื่อนของเจค ไทเลอร์ ได้จัดการแข่งขันชกมวยแบบ Beatdown ชวนไมค์กับแซคลงแข่ง ขณะที่แข่งขัน แม็กซ์ได้ไลฟ์ถ่ายทอดสดและมีคนดูเป็นจำนวนมาก เป็นเหตุให้ตำรวจตามมาเจอเคสอีกครั้งรวมถึงค้นเจอปืนในรถบ้านของเคส ตำรวจพยายามจะซ้อมเคสแต่เคสต่อสู้กลับทั้งที่ถูกใส่กุญแจข้อมือ ระหว่างนั้นเองแม็กซ์ก็แอบถ่ายเหตุการณ์ที่ตำรวจข่มขู่เคสไว้ทั้งหมด เคสถูกจับแต่รอดข้อหาได้เพราะปืนเป็นของจัสตินที่แอบเอามาไว้ที่รถบ้านของเคส ตัดภาพมาที่สนามแข่งที่ทุกคนกำลังชกอยู่นั้น 4 นักชกที่เคสฝึกสอนแซค, ไมค์, ทิม, และ จัสติน สามารถผ่านเข้าไปถึงรอบท้าย ๆ แต่จัสตินกับทำร้ายทิมที่เข่าจนลงแข่งไม่ไหว ทำไมจึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้ และเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปคุณ ต้องติดตามชม
จากต้นจนจบพอสรุปได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นหนังแอ็กชันที่มีเนื้อหาที่สนุก มีการเล่าเรื่องที่เป็นขั้นตอน แต่ค่อนข้างช้าจนคนดูรู้สึกอึดอัด เนื้อเรื่องโดยมากจะเป็นการฝึกซ้อมชกมวยเป็นหลัก จึงทำให้รู้สึกจำเจไปสักหน่อย ในส่วนของภาพและเสียงเรียกว่าทำได้ดีอยู่พอสมควร โดยเฉพาะฉากสมามแข่ง เรื่องการออกแบบบทบู้นั้นน่าประทับใจ การจัดแสงอยู่ในระดับปานกลาง แต่ก็ไม่ได้ทำให้หนังแย่ สำหรับคนชอบหนังบู้ สไตล์การชกมวยไม่ควรพลาด ซึ่งคะแนนของหนังเรื่องนี้้อยู่ที่ 6.0 /10
ความคิดเห็น