The Wild (2023)
ภาพยนตร์จากประเทศเกาหลีแนว แอ็กชัน เรื่อง The Wild (2023) กำกับการแสดงโดย คิมงฮัน นักแสดงนำ นักแสดง พัคซองอุง รับบท อูชอล, โอแดฮวาน รับบท โดชิก, และ ซอจีฮเย รับบท ชเวมยองจู เรื่องราวเส้นทางที่ต่างกันของชายสองคน ที่เลือกเส้นทางเดินต่างกัน อูชอล อดีตนักมวยที่พึ่งออกจากมาจากคุก โดยเขานั้นตั้งเป้าหมายไว้ว่าตัวเองจะใช้ชีวิตหลังจากนี้ไปด้วยดี โดชิก เพื่อนสนิทอีกคนของเขาที่มีเป้าหมายและความทะเยอทยานสูงสุด โดยเขายอมทำทุกอย่างเพื่อให้เป้าหมายของตัวเองประสบความสำเร็จ
เปิดฉากมาที่สนามมวยที่กำลังมีการแข่งขันเกิดขึ้น แต่ดูเหมือนว่านักมวยฝ่ายหนึ่งกลับล้มลงพร้อมกับเสียชีวิตไป ทำให้ผู้ชนะต้องติดคุกจากการทำให้คู่ต่อสู้ของตัวเองเสียชีวิตมากถึง 10 ปี หลังจากเวลาผ่านไป อูชอล ก็ได้ถูกปล่อยตัวออกมาหลังจากชดใช้กรรม เขาเป็นมาเฟียคนสุดท้ายของเกาหลีที่เหลืออยู่ หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีรถเข้ามาจอดพร้อมกับเพื่อนสนิทของเขาเดินลงจากรถก่อนจะอ้าแขนโอบกอดเขา โดยเพื่อนคนนี้มีชื่อว่า ชานอู เขาได้รับตำแหน่งให้เป็นรองเจ้าพ่อ โดยรักษาการแทนอูชอลที่ติดคุกอยู่ ซึ่งผู้ที่มาในครั้งนี้อีกคนก็คือ ลูกน้องคนสนิทที่อูชอลไว้ใจมาก ๆ และรักเหมือนน้องชาย ทุกคนขอให้อูชอลกลัยเข้าสู่วงการมาเฟียอีกครั้ง แต่เหมือนว่าทางด้านของอูชอลกลับไม่เห็นด้วย หลังจากที่ตัวของเขาติดคุกมาเป็นเวลานาน ทำให้อูชอลคิดอะไรได้หลาย ๆ อย่าง เขาจึงตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่แบบเงียบสงบ หลีกหนีจากความวุ่นวายต่าง ๆ ทางด้านชานอูเสนอทางเลือกว่า ตัวของเขาจะชื่อบ้าน ซื้อรถ พร้อมกับหาแฟนสวย ๆ ให้แก่อูชอล แต่เหมือนว่าข้อเสนอเหล่านี้ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนใจอูชอลได้ ชานอูได้พาอูชอลมายังร้านคาราโอเกะเพื่อต้อนรับการออกจากคุก ด้วยการจัดสาวสวยให้มาดูแล แต่เหมือนว่านี้จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้พบกับหญิงสาวที่เติมให้โลกทั้งใบของเขาสดใสมากขึ้น แต่เหมือนว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะอูชอลต้อมาประสบพบเจอกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่ทำให้เขาต้องกลับไปมือเปื้อนเลือดอีกครั้ง เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อ ร่วมกันหาคำตอบและติดตามได้ในหนังเต็มได้เลย
ภาพยนตร์แอ็กชันที่เรียกว่ามีฉากบู๊ต่าง ๆ แบบถึงใจมาก ๆ เลยล่ะ แถมด้านตัวบทเองก็ไม่น่าเบื่อด้วย การเล่าที่กระชับ ตรงประเด็น ทำให้เราสามารถรับรู้ว่าได้หนังมีเส้นเรื่องหลักคืออะไร ทางทีมนักแสดงเองก็เล่นดีจนเสริมให้หนังสนุกมากขึ้นกว่าเดิม ถือว่าภาพรวมหนังสร้างความบันเทิงได้ไม่น้อย ดีเทลหนังไม่ได้เยอะมากมายจนทำให้คนดูสับสน ด้านปมก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมาก ตัวหนังส่วนใหญ่จะเน้นไปที่พระเอก อาจทำให้ตัวละครอื่น ๆ ดูมีซีนน้อยไปหน่อย จากภาพรวมทั้งหมดเราจะขอให้คะแนนหนังเรื่องนี้อยู่ที่ 8.5/10
ความคิดเห็น