เสียง : Sound Track

6.6

หนังเรื่อง Believer (2018) เป็นหนังเกาหลีแนวแอ็กชัน อาชญากรรม ระทึกขวัญ อำนวยการสร้างโดย จุง ฮี-ซุน เขียนบทโดย จอง ซอ-คยอง และ อี แฮ ยอง กำกับภาพโดย คิม แท-คยอง ตัดต่อภาพโดย หยาง จิน-โม กำกับการแสดงโดย อี แฮ ยัง มาพร้อมกับนักแสดงนำมากมาย ได้แก่ โช จิน-อุง รับบทเป็น วอนโฮ (ตำรวจสืบสวนของหน่วยปราบปรามยาเสพติด), รยู จุน-ยอล รับบทเป็น ซอ ยอง รัก, คิม ซอง-รยอง รับบทเป็น โอ ยอน-อก, พัค แฮ-จุน รับบทเป็น ซอน ชาง, ชา ซึง-วอน รับบทเป็น มิสเตอร์ลี, คิม จู-ฮยอก รับบทเป็น จิน ฮา-ริม (พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ในเกาหลี-จีน), และ พัค ซอง-ยอน รับบทเป็น ล่ามภาษามือ

เนื้อเรื่องเป็นเรื่องราวของตำรวจสืบสวนประจำหน่วยปราบปรามยาเสพติดแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า วอนโฮ โดยเขานั้นพยายามไล่ล่าตามจับตัวพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ซึ่งก็คือ มิสเตอร์ลี มาตลอด แต่ก็คว้าน้ำเหลว จนมีอยู่วันหนึ่งได้เกิดเหตุระเบิดรุนแรงขึ้นที่โรงงานผลิตยาเสพติดของมิสเตอร์ลี ทำให้พบผู้เสียชีวิตมากมาย และมี โอ ยอน-อก เป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวของเหตุการณ์ครั้งนี้ เขาจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง และเขาก็ได้พบกับ จิน ฮา-ริม (คนที่ปลอมตัวเป็นมิสเตอร์ลี) จากนั้นเขาก็เข้าไปแฝงตัวอยู่ในกลุ่มของพ่อค้ายาเสพติดโดยที่ไม่มีใครจับได้ ทำให้เขา และลูกน้องในทีมได้ตัวยามาจาก จิน ฮา-ริม อย่างง่ายดาย อีกทั้งเขายังสืบเรื่องราวไปจนพบคนผลิตยาที่เป็นใบ้ในโรงงานยาเสพติดด้วย เขาจึงนำตัว มังโก และ โรนา ไปสอบสวน ไม่นานก็มีการต่อสู้เกิดขึ้นที่บริเวณนั้น ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ วอนโฮ และลูกน้องในทีมของเขาจะจับตัว มิสเตอร์ลี ตัวจริงได้สำเร็จหรือไม่ เชิญมาติดตามต่อที่นี่ได้เลย

หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ขอสรุปว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังแนวแอ็กชัน อาชญากรรม ระทึกขวัญ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าเป็นหนังที่มีหลากหลายอารมณ์ ทำให้คนดูรู้สึกสนุก และด้วยเนื้อหาภายในหนังมีการสอดแทรกคดีสืบสวนอาชญากรรมเข้ามาด้วย จึงช่วยเพิ่มความเข้มข้นเข้าไปอีก สำหรับด้านพล็อตเรื่องนี้ถือว่าทำออกมาได้ดี ส่วนจุดเด่นของหนังคือตัวละครหลักที่ชื่อ วอนโฮ ซึ่งเป็นตำรวจสืบสวนของหน่วยปราบปรามยาเสพติดมีจุดมุ่งหมายที่แน่วแน่ ถึงแม้ผู้บังคับบัญชาจะบอกให้เปลี่ยนคนมาทำหน้าที่แทนเขาก็ตาม แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้จนกว่าจะจับตัวพ่อค้ายารายใหญ่ให้ได้ ส่วนการดำเนินเรื่องก็เป็นไปด้วยความกระชับ ต่อมาคือด้านฉากแอ็กชันมีการใช้ดาบเข้ามาต่อสู้กันอย่างดุเดือด ทำให้คนดูได้อรรถรสในการรับชม แต่จุดด้อยของหนังก็มีเหมือนกันคือ หนังมีการหักมุมตอนจบของเรื่อง ทำให้คนดูอาจจะไม่ค่อยอินกับหนังเท่าไร นอกจากนี้เรื่องเทคนิคทางด้านของแสง สี องค์ประกอบโดยรวมของหนังถือว่าดีในระดับหนึ่ง ดังนั้นคะแนนภาพรวมทั้งหมดของหนังเรื่องนี้เราให้อยู่ที่ 8 เต็ม 10 คะแนน