เสียง : Sound Track

6.5

Countdown (2023) หนังเกาหลี ประเภท ดราม่า / กีฬา กำกับการแสดงโดย Kwon Hyeok-jae นักแสดงนำ Jin Sun-kyu, Seong Yu-bin, Oh Na-ra, Ko Chang-seok, Jang Dong-ju, Go Gyu-pil

เรื่องราวเริ่มต้นที่ อดีตนักมวยอย่าง พัคชีฮอน ที่เคยได้รับรางวัลมากมายจากการแข่งขัน พร้อมทั้งชื่อเสียงโด่งดังจนกระทั่งเขาถูกตัดสินในเกมที่ไม่เป็นธรรม จนทำให้เขาได้ถูกมองว่าเป็นผู้ชนะที่มีมลทิน พัคชีฮอนรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากจนเขาตัดสินใจคืนเหรียญรางวัลที่ได้มาทั้งหมดกับเงินบำนาญของตัวเอง เพื่อออกมาใช้ชีวิตธรรมดา พร้อมกับประกอบอาชีพเป็นครูในโรงเรียนม. ปลายในเมือง จินแฮ ด้วยนิสัยส่วนตัวของเขาที่เป็นคนหัวรั้น ไม่จำใคร ที่แม้แต่ครูใหญ่ที่หวังดีกับเขา ยังต้องมานั่งปวดหัวกับพฤติกรรมของพัคชีฮอนอยู่เสมอ แต่ครูใหญ่เองก็เลือกที่จะทำโทษเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ทางด้านภรรยาของพัคชีฮอนอย่าง อิลซอน ผู้ที่มองเห็นความบอบช้ำและเป็นคนที่อยู่เคียงข้างพัคชีฮอนมาโดยตลอด เธอเข้าใจพฤิตกรรมของสามีตัวเองแถมยังเห็นใจกับสิ่งที่พัคชีฮอนเจอที่ผ่าน ๆ มาเป็นอย่างดี นอกจากนี้พัคชีฮอนก็ยังมีลูกชายวัยประถมนั้นก็คือ พัคจูวอน เด็กชายที่อยากให้พ่อของเขาเป็นฮีโร่ที่ได้รางวัลจากความสามารถ ซึ่งเขาเองไม่อยากที่จะโดนเพื่อน ๆ ล้อ แบบทุกวันนี้อีกต่อไป ทุกครั้งที่เขาให้พ่อตัวเองช่วยยืนยันด้วยเหรียญทองที่เขามีอยู่จริง ๆ แต่ก็ถูกพัคชีฮอนปฏิเสธทุกครั้งไป แต่แล้ววันหนึ่งพัคชีฮอนตัดสินใจที่จะตั้งทีมมวยเยาวชนขึ้นมา หลังจากที่เขาได้พบกับ ชเวยุนอู เด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์ในด้านการชกมวย แต่เพียงแค่เขาเป็นเด็กหนุ่มที่ขาดโอกาส พัคชีฮอนจึงต้องการที่จะช่วยเหลือพร้อมทั้งอยากที่จะผลักดันให้เด็กหนุ่มไปถึงเป้าหมายสูงสุดให้ได้ และนี้ก็ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด พัคชีฮอนจะสามารถพาเหล่าเด็ก ๆ ก้าวขึ้นสู่ชัยชนะได้หรือไม่ ร่วมกันเอาใจช่วยได้ในหนังเต็มกันเลย

ภาพยนตร์น้ำดีอีกเรื่องที่มีเนื้อหาค่อนข้างครบรสเลยก็ว่าได้ ทั้งสะท้อนเรื่องราวความรัก ความสัมพันธ์ของเพื่อน ๆ รวมถึงแรงบันดาลใจในความฝัน ตัวหนังจะเล่าไปทีละสเตปให้เห็นความคิด สาเหตุในการตัดสินใจของตัวละครนั้น ๆ สอดแทรกเรื่องของการถูกสังคมตีตราว่าเป็นคนผล ผลกระทบต่าง ๆ ซึ่งหนังก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้ดีมาก ๆ เลยด้วย โดยหนังไม่ได้ใส่ความดราม่าเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีความตลกของนิสัยตัวละครมาเพิ่มสีสันให้หนังน่าดู สนุกมากกว่าเดิมเลยล่ะ รวม ๆ แล้ว เราให้คะแนนหนังเรื่องนี้อยู่ที่ 9/10