เสียง : Sound Track

5.7

ภาพยนตร์แนวดราม่า เรื่อง Fanfik (2023) แฟนฟิค กำกับการแสดงโดย มาร์ตา คาร์วอฟสกา นักแสดงนำ อาลิน เซฟชิค, แยน เชนเชียรา, และ โดโบรมีร์ ดีเมซกี เมื่อ 2 วัยรุ่นที่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน แต่ความสัมพันธ์ในครั้งนี้ทำให้เขาต้องเจอกับอุปสรรคครั้งใหญ่ ในขณะเดียวกันทั้งสองก็จำเป็นต้องค้นหาตัวตนและความปรารถนาของตัวเองไปด้วย
เรื่องราวเริ่มต้น ณ โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง โตชา เด็กสาวที่เหมือนกำลังมีปัญหาบางอย่าง ซึ่งในวันนี้เปิดวันเปิดภาคเรียนในวันแรกขณะที่ทุกคนกำลังเข้าร่วมทำกิจกรรมอยู่ในหอประชุม โตชากลับเลือกที่จะอยู่ในห้องน้ำราวกับว่าเธอต้องการหลบหนีจากความวุ่นวายอย่างนั้นล่ะ แต่ในขณะเดียวกันโตชาก็ได้ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงอาเจียนของใครบางคน เลออน คือหนุ่มในเพื่อนร่วมห้องของเธอ ทั้งสองเจอกันในครั้งบนทางเดินก่อนที่จะสบตาให้กันราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่าง ดูเหมือนว่าตอนนี้โตชากำลังมีปัญหาเรื่องสุขภาพจิตบางอย่าง ยิ่งเข้าสู่ในช่วงวัยรุ่นอย่างเต็มตัวเธอยิ่งเกิดคำถามและต้องข้อสงสัยในตัวเองอยู่ตลอดเวลา ทำให้เวลาส่วนใหญ่เธอมักจะเลือกแต่งนิยายแฟนฟิคเพื่อเป็นการระบายความเครียดของตัวเอง จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่งขณะที่โตชากำลังเดินทางไปปาร์ตี้กับเพื่อนขณะนั้นเกิดฝนตกลงมาจนทำให้เธอเปียกไปทั้งตัว เลออนที่เห็นอย่างนั้นเขาจึงนำชุดของตัวเองมาให้เธอยืม โตชามีความรู้สึกแปลก ๆ ในขณะที่เธอกำลังแต่งตัวแบบผู้ชายด้วยเหตุนี้เองทำให้โตชาตัดสินใจที่จะตัดผมตัวเองเพื่อเปลี่ยนแปลงลุคใหม่ ในคาบเรียนของวันถัดไป โตชายังคงสวมชุดของเลออนพร้อมกับทรงผมใหม่ การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้สร้างความแปลกใจให้แก่เพื่อนในกลุ่มของเธอเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นมาโตชาเริ่มสนิทสนมกับเลออนขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งคู่ออกไปไหนด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง เหมือนว่าตอนนี้โตชาจะมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับเลออนแต่เธอก็ได้ค้นพบตัวตนของตัวเองที่ซ่อนอยู่ด้วย เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อ ติดตามกันได้ภายในภาพยนตร์เต็ม
Fanfik (2023) แฟนฟิค ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นเพื่อสะท้อนแนวคิดและการค้นหาตัวเองของวัยรุ่น โดยแต่ละคนจะมีความต้องการและรสนิยมที่แตกต่างกัน ในช่วงต้น ๆ หนังอาจยังไม่ได้เล่าอะไรมากมาย เหมือนให้เราค่อย ๆ ทำความเข้าใจและรู้จักตัวละครไปทีละขั้นก่อน หลังจากนั้นถึงขยายให้เราเห็นว่าแต่ละตัวละครมีการเปลี่ยนแปลงพร้อมทั้งยังทำให้เราเข้าใจการตัดสินใจของตัวละครได้มากยิ่งขึ้น โดยภาพรวมแล้วถือว่าเป็นหนังดี ๆ อีกเรื่อง แม้ว่าอาจดูจืดชืดไปหน่อยแต่ก็สามารถที่จะดูได้ ภาพรวมเราจะขอให้คะแนนภาพยนตร์นี้อยู่ที่ 7/10 อยากให้เพิ่มปมของตัวละครให้มากกว่านี้ รวมถึงเพิ่มมิติตัวละครเพื่อสร้างให้หนังได้มีจุดพีคหรือปริศนาให้เราได้ติดตามกันได้ตั้งแต่เริ่มต้นจบ แต่ก็ไม่ใช่หนังที่แย่อะไร