เสียง : Sound Track

6.1

หนังเรื่อง Gold Brick (2023) โกลด์บริค เป็นหนังฝรั่งแนวดรามา ตลก อำนวยการสร้างโดย ธิบาลต์ แกสต์ และ แมตเธียส เวเบอร์ เขียนบทโดย เฌเรมี โรซาน และ วิคเตอร์ โนเดนบัค กำกับภาพโดย มาติเยอ เพลนฟอสเซ ตัดต่อภาพโดย เวอร์จินี บรูอันท์ กำกับการแสดงโดย เฌเรมี โรซาน มาพร้อมกับนักแสดงนำมากมาย ได้แก่ ราฟาแอล กูเอนาร์ด รับบทเป็น แดเนียล ซอว์เวอร์ (โจรปล้นน้ำหอม), อีกอร์ โกตสแมน รับบทเป็น สแกนเนีย (โจรปล้นน้ำหอม), และ อเกธ รุสแซล รับบทเป็น เวอร์จินี แวน สแตรทเทน (แฟนสาว แดเนียล ซอว์เวอร์)

เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มสองคนซึ่งก็คือ แดเนียล ซอว์เวอร์ กับ สแกนเนีย พวกเขาทั้งสองคนทำงานที่โรงงานน้ำหอมแห่งหนึ่ง ในแต่ละวันพวกเขาทำงานหนัก แต่ว่าเจ้านายไม่เห็นคุณค่าในตัวของพวกเขาแม้แต่น้อย อยู่มาวันหนึ่งพวกเขาก็ลุกขึ้นมาวางแผนร่วมกันคิดก่อเหตุปล้นน้ำหอมในโรงงาน แล้วนำไปขายต่อเพื่อให้ได้กำไร และที่พวกเขาต้องทำเช่นนี้ก็เพราะว่า ความจนมันน่ากลัว พกวเขาจึงต้องสู้เพื่อความอยู่รอด และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวอันแสนวุ่นวายทั้งหมด สำหรับใครที่อยากทราบว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ แดเนียล ซอว์เวอร์ กับ สแกนเนีย จะรอดสายตาจากเจ้านายได้หรือไม่ และพวกเขาจะทำภารกิจปล้นน้ำหอมได้สำเร็จหรือเปล่า เชิญทุกคนมาติดตามรับชมต่อที่นี่ได้เลย

หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ขอสรุปว่าเป็นหนังดรามา ตลกที่ถ่ายทอดเรื่องราวของหนุ่มโรงงานที่ปล้นน้ำหอมเพื่อนำไปขายต่อ เพราะเจ้านายไม่เห็นคุณค่า แถมยังได้เงินค่าจ้างไม่พอใช้ โดยมีจุดเริ่มต้นจากการปล้นน้ำหอมขวดเล็ก ๆ จนพวกเขากลายมาเป็นอาชญากรที่ออกปล้นอย่างอื่นด้วย จึงทำให้เกิดความวุ่นวายต่าง ๆ มากมายตามมาภายหลัง สำหรับพล็อตเรื่องถือว่าทำออกมาได้ดี จุดเด่นของหนังเรื่องนี้แทบไม่มีเลย ตัวหนังดำเนินเรื่องไปอย่างช้า ๆ ซึ่งเต็มไปด้วยความน่าเบื่อ อีกทั้งการปล้นยังสามารถขนย้ายน้ำหอมได้ง่าย ๆ โดยไม่มีอุปสรรคใด ๆ มาขัดขวางระหว่างการปล้นด้วย และที่สำคัญตัวละครหลักที่รับบทเป็น แดเนียล ซอว์เวอร์ บังเอิญเจอกับ เวอร์จินี แวน สแตรทเทน แบบกะทันหันแล้วก็ถูกคอกัน จากนั้นเธอก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมปล้น ซึ่งจุดนี้ไม่สมเหตุสมผล ดูแล้วงงมาก แถมตัวละครอื่น ๆ ในเรื่องแสดงไม่สมบทบาทเลยสักคน เหมือนเอามาประกอบให้ตัวละครหลักโดดเด่นอยู่แค่สองคนแค่นั้น สุดท้ายเทคนิคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านของแสง ฉาก สี ทางทีมงานทำออกมาได้ดี พอดูได้ เราจึงขอให้ะแนนหนังอยู่ที่ 6 เต็ม 10 คะแนน