เสียง : Sound Track

7

Hideo Kojima Connecting Worlds (2023) ภาพยนตร์สารคดี / ชีวิตจริง กำกับโดย Glen Milner นักแสดงนำ ฮิเดโอะ โคะจิมะ, กีเยร์โม เดล โตโร, นิโคลัส วินดิ้ง เรฟน์, ไกรมส์, จอร์จ มิลเลอร์

ภาพยนตร์สารคดีที่บอกเล่าเรื่องราวของ ฮิเดโอะ โคะจิมะ นักพัฒนาเกมและผู้กำกับชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงมาก เขาเป็นผู้สร้างซีรีส์เกมยอดนิยมอย่าง เมทัล เกียร์ โซลิด (Metal Gear Solid) ฮิเดโอะ โคะจิมะได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมใหม่ ๆ ในด้านการเล่าเรื่องในเกม ภาพกราฟิก และการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้เล่น ซึ่งผลงานล่าสุดของเขาคือ Death Stranding ในปี 2019 ซึ่งได้รับคำชื่นชมในด้านการสร้างสรรค์ แต่ก็มีนักวิจารบางท่านที่มีความเห็นต่าง ตัวภาพยนตร์จะทำให้เรารู้จักและเผยแง่มุมต่าง ๆ ของเขามากยิ่งขึ้น ฮิเดโอะ โคะจิมะเป็นคนที่ชื่นชอบค้นหาสิ่งต่าง ๆ ใหม่ ๆ ตลอดเวลา ชื่นชอบความท้าทายและพัฒนาตัวเอง ลองสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ ซึ่งทางฮิเดโอะ โคะจิมะเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เขามีความฝันว่าอยากจะไปอวกาศ เพราะฉะนั้นเขาจะสร้างเงินที่ทุกคนสามารถเล่นได้ในอวกาศ ฮิเดโอะ โคะจิมะพยายามค้นหาออกแบบเกมเพื่อที่จะพัฒนาให้จากจินตนาการที่เขามีนั้น สามารถถูกถ่ายทอดไปให้แก่บุคคลอื่น ๆ ได้ด้วย นอกจากภาพยนตร์จะพาเราไปให้การทำงานของฮิเดโอะ โคะจิมะแล้ว เรายังได้เห็นข้อมูลต่าง ๆ กระบวนการในการสร้างเกม Death Stranding ซึ่งเกมนี้เป็นเกมแรกที่ทางสตูดิโอของฮิเดโอะ โคะจิมะ หลังจากที่เขาตัดสินใจออกจากบริษัทเกมยักษ์ใหญ่อย่าง โคนามิ เรื่องราวความฝัน การทำงาน และความเก่งของฮิเดโอะ โคะจิมะจะดำเนินไปอย่างไรบ้าง มารับชมกันเต็มอิ่มในสารคดีเต็มกันได้เลย

เรียกว่าเป็นภาพยนตร์ที่สายเกมจะต้องกรี๊ดเลยก็ว่าได้ เพราะเราจะได้เห็นขั้นตอนในการทำงานของนักผลิตเกมชื่อดัง จะได้เห็นว่าจุดเริ่มต้นของเกมหรือแนวคิดของเกมมาจากไหน สารคดีนี้จะเจาะลึกไปถึงการพัฒนาเกมเรียกว่าถือเป็นผลงานชิ้นเอกเลยล่ะ ตั้งแต่ที่โคะจิมะเลือกที่จะออกมาทำตามความฝัน ทิ้งเก้าอี้ในบริษัทเกมชื่อดัง ทางด้านงานภาพถือว่าทางสารคดีถ่ายทอดออกมาได้สวยมาก ๆ มีการเสนอมุมมองต่าง ๆ ทำให้รู้สึกไม่เบื่อ แถมยังเสริมด้วยบทสัมภาษณ์ต่าง ๆ มีเพลงประกอบ ทำให้เราได้เห็นมุมมองต่าง ๆ ของโคะจิมะมากยิ่งขึ้นนั้นเอง แน่นอนว่าเนื้อหาส่วนใหญ่ของหนังจะเป็นการเล่าเรื่องความสำเร็จ ความสามารถของโคะจิมะ อาจทำให้ผู้ชมหลาย ๆ ท่าน มองว่าสารคดีเรื่องนี้จะเผยแต่ด้านต่าง ๆ ในแง่บวกจนเกินไปก็เป็นได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วย โดยรวมแล้วหนังภาพยนตร์เรื่องนี้เราให้คะแนนอยู่ที่ 7/10