เสียง : Sound Track

5.3

หนังเรื่อง Justice League x RWBY Super Heroes & Huntsmen Part One (2023) เป็นหนังการ์ตูนแอนิเมชั่นผจญภัย แอ็กชัน ซูเปอร์ฮีโร อำนวยการสร้างโดย คิมเบอร์ลี เอส. มอโร, อีธาน สปอลดิง, และ เคอร์รี ชอว์ครอส เขียนบทโดย เมแกน ฟิตซ์มาร์ติน ตัดต่อภาพโดย ริชาร์ด นอร์แมน กำกับการแสดงโดย เคอร์รี ชอว์ครอส ซึ่งหนังเรื่องนี้แบ่งออกเป็น 3 ทีม ดังนี้

ทีมแรก Justice League นำแสดงโดย โอซิโอมา อาคาฮา พากย์เสียงเป็น มารี แมคคาบี, นาตาลี อลิน ลินด์ พากย์เสียงเป็น ไดอานา ปรินซ์ ส่วนทีมที่สอง RWBY นำแสดงโดย บาร์บารา ดันเคลแมน พากย์เสียงเป็น หยาง เสี่ยวหลง, ลินด์ซีย์ เอลิเซ่ โจนส์ พากย์เสียงเป็น รูบี้ โรส และทีมที่สาม JNPR นำแสดงโดย ไมล์ส ลูนา พากย์เสียงเป็น จูน อาร์ค, ซาแมนธา ไอร์แลนด์ พากย์เสียงเป็น นอรา วาลคิรี, และ นีธ อุ้ม พากย์เสียงเป็น ลี่ เรน

เริ่มต้นเรื่องราวมาจาก “คลาร์ก เคนท์” นั้นนอนหลับพักผ่อนอยู่ แต่จู่ ๆ ก็พบว่าตนเองตื่นขึ้นมาอยู่ท่ามกลางป่าธรรมชาติแห่งหนึ่ง ซึ่งบริเวณนั้นติดกับสถาบันบีคอนของโลก Remnant ขณะเดียวกัน “รูบี้ โรส” กับ “หยาง เสี่ยวหลง” กำลังทำการต่อสู้กับสัตว์ประหลาด “กริมม์” ซึ่งมีพลังพิเศษมากมายแถมยังสามารถดูดซับอนุภาคของฝุ่นละอองกับไฟเลเซอร์ได้อีกด้วย และด้วยเหตุนี้จึงทำให้เขาพร้อมทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้าได้อย่างรวดเร็ว แต่ความจริงแล้วหนึ่งในสมาชิกของทีมที่ชื่อว่าคลาร์ก เคนท์ ซึ่งร่างกายของเขาจะแข็งแรงเฉพาะตอนอยู่ภายใต้แสงแดดเท่านั้น ถ้าหากอยู่ในที่ร่มเมื่อไหร่เขาจะไม่มีพละกำลังเลย ซึ่งเป็นข้อด้อยที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นในทีม และส่งผลให้เขาไม่สามารถใช้งานพลังวิเศษบางสิ่งได้

ตัดภาพมาที่ Menagerie ซึ่งเบลค เบลลาดอนนาดันไปเจอไดอานา ปรินซ์ด้วยความบังเอิญ และเวลาต่อมาไวส์ ชานีก็เจอเข้ากับบรูซ เวย์นที่แอตลาสเช่นกัน โดยครั้งนี้ คลาร์ก เคนท์ ได้เข้าไปรวมตัวกับ รูบี้ โรส, หยาง เสี่ยงหลง และมี เบลค เบลลาดอนนา กับ ไดอานา ปรินซ์ ร่วมด้วย ขณะที่ทีม JNPR ประกอบด้วยสมาชิก ดังนี้ ได้แก่ จูน อาร์ค, นอรา วาลคิรี, และ ลี่ เรน โดยมี เจสสิกา ครูซ, มารี แมคคาบี, แบร์รี อัลเลน, และ วิกเตอร์ สโตน จากทีมซูเปอร์ฮีโร่ Justice League เข้ามาร่วมผนึกกำลังด้วย

ภายหลังเหล่าทีมซูเปอร์ฮีโร่ Justice League มีทั้งหมด 7 คน คือ คลาร์ก เคนท์, บรูซ เวย์น, แบร์รี อัลเลน, ไดอานา ปรินซ์, วิกเตอร์ สโตน, มารี แมคคาบี, และ เจสสิกา ครูซ ถูกค้นพบว่าทุกคนกลายเป็นวัยรุ่นหนุ่มสาวย้อนวัยทั้งหมด ซึ่งมีเพียงแค่ความทรงจำที่เลือนลางเล็กน้อยคือ พวกเขาคิดว่าตนเองเคยทำการต่อสู้กับพลังใดพลังหนึ่งมาก่อน ที่สถาบันบีคอนของโลก Remnant และตอนนี้เมื่อถูกแปลงกาย จึงทำให้ไม่มีพลังหลงเหลืออยู่ในร่างกายแม้แต่น้อย ส่วนทีม RWBY ประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 4 คน ได้แก่ รูบี้ โรส, ไวส์ ชานี, เบลค เบลลาดอนนา, และ หยาง เสี่ยวหลง กับทีม JNPR ต่างก็คิดว่าทุกเหตุการณ์การต่อสู้ที่เกิดขึ้นมานั้นเป็นภาพลวงตาในจินตนาการ จึงถกเถียงกันว่าแท้จริงแล้วโลก Remnant เป็นอย่างไรกันแน่ หากใครอยากรู้ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อนั้น ทั้ง 2 ทีมจะสามารถปกป้องโลกไว้ได้สำเร็จหรือไม่ และการต่อสู้กับกริมม์ผลจะออกมาชนะหรือแพ้ ทุกคนสามารถเข้ามาลุ้นเพื่อติดตามไปพร้อมกันได้ที่นี่เลย

หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ขอสรุปว่าเป็นหนังการ์ตูนแอนิเมชั่นผจญภัย แอ็กชัน ซูเปอร์ฮีโรที่ถ่ายทอดเรื่องราวของสมาชิกทีม Justice League ทั้งหมดกลายร่างเป็นวัยหนุ่มสาวอีกครั้ง สำหรับพล็อตเรื่องถือว่าพอใช้ระดับปานกลาง รวมไปถึงฉากแอ็กชันที่ทำออกมาดีที่สุด เนื่องจากมีการนำศิลปะการต่อสู้เข้ามาผสมผสานตลอดทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเลเซอร์, ระเบิด, ดาบ, ไฟ, หมัด, เตะ, และคาถาต่าง ๆ โดยจุดนี้ช่วยให้ดูหนังด้วยความเพลิดเพลิน สนุก แล้วก็คอยลุ้นระทึกไปกับตัวละครหลักทุกคนด้วย นอกจากนี้ยังแฝงข้อคิดเล็กน้อยไว้ให้คนดูคือ ความเป็นผู้นำนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุหรือเพศ แต่ทั้งหมดจะเชื่อมโยงกับสิ่งที่อยู่ในหัวใจของคนนั้น มากกว่าการทำงานร่วมกันเป็นทีมหลายคน ซึ่งความหลากหลายทางเชื้อชาติก็มีส่วนสำคัญทำให้การต่อสู้เป็นไปด้วยความราบรื่นเช่นกัน อีกทั้งนักแสดงทั้งหมดทำออกมาดีเกินคาด ทั้งนี้การออกแบบตัวละครยังใช้เทคนิคพิเศษเข้ามาช่วยจึงส่งผลให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกัน แต่ก็มีความลงตัวเมื่ออยู่รวมกันเป็นทีมเดียวกัน ส่วนบรรยากาศภายในหนังทำออกมาสมจริงมากเหมือนอยู่ในโลกของสัตว์ประหลาดจริง ๆ ส่วนจุดด้อยของหนังคือ การดำเนินเรื่องซับซ้อน เล่าเรื่องงงบ้างเล็กน้อย อาจจะทำให้ดูหนังไม่รู้เรื่องแต่ไม่มากเท่าไร และที่สำคัญหากเด็กเล็กนั่งดูควรมีผู้ปกครองนั่งกำกับข้าง ๆ ด้วย เนื่องจากฉากต่อสู้อาจจะมีความรุนแรง ซึ่งเด็กอาจจะซึมซับไปได้อย่างง่าย เพราะฉะนั้นควรสอนสิ่งที่ดีแล้วมีประโยชน์ต่อเด็กด้วย สุดท้ายนี้เทคนิคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศสมจริงมาก แสงมีความสว่างมาก สีฉากโปรดักชั่นมีความสดใส สีมีความสวยงามตลอดเรื่อง และองค์ประกอบอื่น ๆ โดยรวมของหนังถือว่าพอใช้ได้ ดังนั้นคะแนนภาพรวมทั้งหมดเราให้อยู่ที่ 7 เต็ม 10 คะแนน