เสียง : ไทย

7.3

Kingdom of the Planet of the Apes (2024) อาณาจักรแห่งพิภพวานร ภาพยนตร์แอ็กชัน ไซไฟฟอร์มยักษ์ กำกับโดย เวส บอล นำแสดงโดย โอเวน ทีค รับบทเป็น โนอา, เฟรยา อัลเลน รับบทเป็น โนวา, เควิน ดูแรนด์ รับบทเป็น โพรซิมัส, ปีเตอร์ เมคอน รับบทเป็น รากะ, และ ทราวิส เจฟฟรีย์ รับบทเป็น อนายา ซึ่งหลังจากที่มีการเล่าถึงการครองโลกของเหล่าวานรในปี 2011 ไปแล้ว ทั้งโลกก็กลายเป็นเพียงดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงไปมากมาย จากแผ่นดินที่เคยมีแต่ตึกราบ้านช่อง ตอนนี้มีแต่ผืนป่าสีเขียว ที่เป็นเช่นนี้เพราะความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ และสร้างหายนะให้กับเผ่าพันธ์ตนเอง ทำให้เหล่าวานรฉลาดขึ้น มีความคิดเป็นของตนเอง ในขณะเดียวกันมนุษย์กลับโง่ลง เมื่อเวลาผ่านไปการสืบสานเจตนารมณ์ของ ซีซ่า ราชาวานรที่แท้จริงก็ถูกบิดเบือนและถูกเล่าต่อในภาคใหม่

ในภาคนี้หนังจะพาเราไปจะติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจาก 3 ภาคแรกไปหลายร้อยปี เป็นยุคสมัยที่วานรครอบครองโลก และมนุษย์ก็ใกล้จะสูญพันธุ์ เป็นเรื่องราวของ โนอา วานรจากเผ่าหนึ่งที่อาศัยอยู่ในป่าพื้นที่ห่างไกล ซึ่งเขาไม่รู้เรื่องราวในอดีตเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่หมู่บ้านถูกเผา ถูกโจมตีจนวอดวายและทุกคนในหมู่บ้านถูกจับตัวไป เขาก็ตัดสินใจออกเดินทางเพื่อช่วยทุกคนให้ได้ และในระหว่างทางเขาก็พบว่า โลกใบนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด อีกทั้งเขายังได้เจอกับมนุษย์ผู้หญิงคนหนึ่ง โนวา เธอคอยติดตามเขาตลอดทาง สุดท้ายแล้วเรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร โนอากับโนวาจะต้องเจอกับอุปสรรคอะไรอีกบ้าง และซีซ่ายังมีชีวิตอยู่ไหม ติดตามรับชมต่อได้ที่นี่

อันดับแรกเราต้องขอชื่นชมว่าตัวหนังรู้จักเลือกช่วงเวลาที่จะนำมาเล่าเรื่องได้ดี เพราะเหตุการณ์ในหนังจะข้ามเวลาไปนานถึง 300 ปี ซึ่งเป็นเวลาที่ยาวนานพอที่วานรรุ่นหลังจะรู้จัก ซีซาร์ เพียงแค่เขาเป็นตำนานเท่านั้น จนอาจจะมีบางสิ่งยางอย่างถูกบิดเบือน และในตอนนี้มีกษัตริย์บ้าอำนาจปกครองอาณาจักรยิ่งใหญ่ริมทะเล วานรผู้นั้นคือ พร็ฮกซิมัส เขาบิดเบือนคำสอนของซีซาร์ทั้งหมด และตั้งตนเหมือนเป็นผู้นำของวานรทั้งหลาย นอกจากนั้นหนังยังเล่าเรื่องในแง่มุมและตรรกะที่แปลกใหม่ ทำให้เนื้อเรื่องมีความเข้มข้นและน่าติดตาม อีกทั้งหนังยังบอกอีกว่า ไม่ว่าเราจะเป็นมนุษย์หรือวานรก็ย่อมมีมุมมองและความคิดเป็นของตนเอง ซึ่งความคิดนั้นก็ไม่มีใครถูกใครผิดทุกอย่าง นอกจากนี้เทคนิคพิเศษในการถ่ายทำก็ทำออกมาได้ดี มีความสมจริง ดูแล้วน่าประทับใจ ทุกสิ่งทุกอย่างทำได้แนบเนียน ไม่รู้สึกขัดหูขัดตาแต่อย่างใด จึงสรุปได้ว่านี่คือหนังภาคต่อที่ยังคงสนุกสนาน เพลิดเพลิน และน่าติดตามเหมือนเดิม คะแนนของหนังเราให้อยู่ที่ 9/10 คะแนน