เสียง : ไทย

4.4

ภาพยนตร์จากประเทศไทยแนวดราม่า เรื่อง Maebia (2015) แม่เบี้ย กำกับการแสดงโดย ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล นักแสดงนำ ชาคริต แย้มนาม และ อ้อม กานต์พิสชา เมื่อหนุ่มธุรกิจที่ได้เดินทางมายังบ้านทรงไทยริมแม่น้ำในจังหวัดสุพรรณบุรี การมาในครั้งนี้ทำให้เขาได้พบกับหญิงสาวที่เป็นไกด์พาทัวร์ ด้วยหน้าที่สวยทำให้ทั้งสองเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์แม้ว่าตัวของเขาเองจะมีครอบครัวอยู่แล้วก็ตาม ซึ่งจุดเริ่มต้นนี้ทำให้เขาได้พบกับความลึกลับบางอย่างเข้าให้
เรื่องราวเริ่มต้นที่ ชนะชล สุพรรณภูมิ ประธานบริษัทใหญ่ที่มีความมั่งคั่ง โดยตัวของเขานั้นต้องการที่จะเป็นเจ้าของเรือนไทยริมแม่น้ำแห่งหนึ่ง โดยที่นี่มีประวัติและถูกสร้างมาอย่างยาวนาน ทำให้ภาคภูมิเลขาคนสนิทจำเป็นจะต้องเข้าไปดูเรือนไทยโบราณที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี โดยบุคคลที่เป็นเจ้าของเรือนไทยแห่งนี้นั่นก็คือ เมขลา พลับพลา เจ้าของบริษัททัวร์ที่เป็นเพื่อนรุ่นพี่ของภาคภูมิ ชนะชลตัดสินใจที่จะเดินทางเพื่อมาดื่มด่ำกับบรรยากาศของเรือนไทยโบราณ ทำให้การเดินทางในครั้งนี้เขาได้พบกับเมขลาเป็นครั้งแรก เมขลาหญิงสาวหน้าตาดีเธอสามารถทำให้ชนะชลตกหลุมรักได้ตั้งแต่แรกเห็น ทั้งสองพัฒนาและสานสัมพันธ์กันมาเรื่อย ๆ จนเลยเทิดถึงขั้นชู้สาว ชนะชลใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับเรือนไทยที่นี่ซึ่งทำให้เขาได้รู้จักกับ ลุงทิม คนเก่าคนแก่ที่เฝ้าดูแลเรือนไทยและเขายังเป็นคนที่กุมความลับบางอย่างของที่นี่ไว้ด้วย ชนะชลรู้สึกแปลกใจเพราะว่าตัวของเขานั้นดูมีความรู้สึกที่พิเศษราวกับรู้จักลุงทิมมาอย่างยาวนาน เวลาผ่านไปความสัมพันธ์ของชนะชลและเมขลาเหมือนจะยิ่งดื่มด่ำขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองมีความลุ่มหลงกันแบบสุด แต่เมื่อ ไหมแก้ว ภรรยาของชนะชนได้รู้ความจริงว่าสามีของเธอกำลังนอกใจไปกับคู่ขาอย่างเมขลา ทำให้เธอไม่พอใจอย่างมากพร้อมทั้งพยายามที่จะกีดกันทั้งสองให้แยกจากกัน แต่ดูเหมือนจะไม่มีเพียงแค่ไหมแก้วเพียงคนเดียวที่อยากให้ทั้งคู่จบความสัมพันธ์นี้ แต่กลับมีงูเห่ายักษ์ที่แอบดูเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนเรือนไทยก็ไม่พอใจการกระทำที่ผิดศีลนี้เช่นเดียวกัน แต่เมขลาก็ไม่ยอมยุติความรักและความปรารถนาที่เธอมีแก่ชายหนุ่มอย่างแน่นอน โดยเธอก็ยอมที่จะกำจัดผู้ที่มาขัดขวางความรักของเธอแน่นอน เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรติดตามกันต่อในภาพยนตร์เต็มกันได้เลย
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเส้นเรื่องมาจากนวนิยายอันโด่งดัง โดยตัวหนังจะพยายามทำให้คนดูเข้าใจว่า “งู” เปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของความลึกลับ อำนาจ และความน่าสะพรึงกลัวบางอย่าง เปรียบกับหนังเรื่องนี้ที่จะทำให้เราเห็นจิตใจของมนุษย์ โดยการตีความหมายของงูยักษ์ก็จะขึ้นแล้วแต่บุคคล ต้องบอกเลยว่าส่วนตัวค่อนข้างที่จะประทับใจในการเกลี่ยสีและการตัดต่อของภาพยนตร์ซึ่งทำออกมาได้ดีและเข้ากับธีมของหนัง แต่การถ่ายทอดอาจจะยังสร้างความสับสนและไม่เข้าใจในบางอย่างให้แก่ผู้ชมไม่น้อย ควรอธิบายเพิ่มเติมหรือเพิ่มบางฉากเพื่อให้ผู้ชมเข้าใจบริบทของหนังที่จะสื่อให้ง่ายมากยิ่งขึ้น ภาพรวมแล้วเราจะขอให้คะแนนอยู่ที่ 8/10