เสียง : ไทย

5.6

หนังเรื่อง No Surrender (2018) เดี่ยวประจัญบาน เป็นหนังฝรั่งแอ็กชัน อาชญากรรม ระทึกขวัญ สงคราม เขียนบทโดย อลัน เบลซเดล และ ปีเตอร์ มิมี่ กำกับการแสดงโดย มูฮัมหมัด เอล ซ็อบกี้ พร้อมกับนักแสดงนำมากมาย ได้แก่ อาเมอร์ คารารา รับบทเป็น พลเอก ยัวร์เซฟ อัล มาสรี, อาเหม็ด เอล แซ็กก้า รับบทเป็น ผู้พิพากษา, กราดาช์ อับดุลราซีค รับบทเป็น ซูบาห์ และ สกอตต์ เอ็ดเวิร์ด แอดกินส์ รับบทเป็น ตำรวจ
เนื้อเรื่องจะเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ.1940 ณ เมืองอเล็กซานเดรีย ในประเทศอียิปต์ ที่เกิดเหตุการณ์เด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังถูกทหารชาวอังกฤษสามคนข่มขืน แต่ก็มีพลเมืองดีชาวอียิปต์ผ่านมาเห็น และตัดสินใจเข้าไปช่วยเด็กคนนั้นไว้ หลังจากนั้นไม่นานทหารชาวอังกฤษทั้งสามคนก็ถูก พลเอก ยัวร์เซฟ อัล มาสรี จับกุมตัวไปยังสถานีตำรวจคารามูซ โดยมี นายพล แฟรงค์ อดัมส์ ผู้มีอำนาจในกองทัพทหารอังกฤษ ได้ขอให้ พลเอก ยัวร์เซฟ ส่งทหารชาวอังกฤษกลับมา เพราะหนึ่งในกลุ่มทหารที่ทำผิดนั้นมีความเกี่ยวข้องกับเขา เขาจึงต้องการให้พลเอก ยัวร์เซฟ อัล มาสรี ปล่อยตัวทหารกลุ่มนี้ออกมา แต่พลเอกยัวร์เซฟกลับไม่ทำตามคำขอ จึงเกิดเรื่องบานปลายขึ้น มีกองทัพทหารอังกฤษเข้ามาล้อมสถานีตำรวจ และทำการโจมตีพลเอก ยัวร์เซฟ กับทหารชาวอียิปต์แบบไม่ปรานีใคร ส่วนทางด้านคนในสถานีตำรวจก็ต่อสู้เต็มที่โดยไม่มีท่าทีว่าจะยอมเหมือนกัน จนมันกลายเป็นสงครามกลางเมืองในที่สุด ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ พลเอก ยัวร์เซฟ อัล มาสรี จะมีจัดการกับกองทัพทหารอังกฤษได้หรือไม่ และเมืองอเล็กซานเดรียจะกลับมาสงบสุขอีกครั้งไหม เชิญรับชมต่อที่นี่ได้เลย
หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ขอสรุปว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังแนวแอ็กชัน อาชญากรรม ที่เกี่ยวกับสงคราม และประวัติศาสตร์ของอียิปต์ โดยพล็อตเรื่องไม่ได้มีความสนุกเท่าไร มีฉากดรามาบ้างเล็กน้อย และในบางฉากก็อาจจะทำให้คนดูเครียดไปบ้าง เพราะภายในหนังแสดงเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างอังกฤษ กับอียิปต์ที่มีเหตุการณ์ปะทะกันแบบดุเดือดมาโดยตลอด ด้ จุดเด่นของหนังก็คงจะเป็นตัวละครที่ชื่อ สกอตต์ เอ็ดเวิร์ด แอดกินส์ ซึ่งเขาโผล่มาปรากฏตัวในตอนท้ายเรื่อง และแสดงฝีมือการแสดงได้ยอดเยี่ยม เพื่อปิดฉากจบของหนังเรื้องนี้ให้เร็วที่สุด แต่จุดด้อยก็มีเหมือนกันคือ เสียงพากย์หนังใช้เป็นภาษาอังกฤษ ทั้ง ๆ ที่หนังเรื่องนี้เป็นหนังของประเทศอียิปต์ แถมนักแสดงก็เป็นชาวอียิปต์อีกด้วย ดังนั้นเราคิดว่าหนังควรใช้ภาษาอียิปต์ในการพากย์เสียงถึงจะดูตื่นเต้น เร้าใจ และมีความน่าสนใจมากขึ้น นอกจากนี้หนังใช้เวลาในการเล่าเรื่องราวนานไปหน่อย อาจจะทำให้คนดูรู้สึกเบื่อได้ รวมถึงในเรื่องยังไม่มีการพูดถึงตัวละครสมทบที่มีบทบาทโดดเด่นว่ามาจากไหน และเป็นใคร เลยทำให้ดูหนังไม่ค่อยรู้เรื่องสักเท่าไร สำหรับในเรื่องของแสง สี ฉาก และองค์ประกอบโดยรวมของหนังถือว่าพอใช้ได้ ส่วนคะแนนภาพรวมทั้งหมดของหนังเรื่องนี้เราให้ 6 เต็ม 10 คะแนน