เสียง : Sound Track

6.3

หนังเรื่อง On the Line (2021) เป็นหนังเกาหลีแนวแอ็กชัน ดราม่า อาชญากรรม อำนวยการสร้างโดย พัค จา-มยอง เขียนบทโดย แบ ยอง อิก กำกับภาพโดย อี ซอน ยอง กำกับการแสดงโดย คิม กก และ คิม ซุน มาพร้อมกับนักแสดงนำมากมาย ได้แก่ บยอน โยฮัน รับบทเป็น พัค ซอ-จุน (เหยื่อวอยซ์ฟิชชิ่ง), คิมมูยอล รับบทเป็น โปรควัก (นักออกแบบวอยซ์ฟิชชิ่ง), คิม ฮี วอน รับบทเป็น ลี คิว-โฮ (หัวหน้าทีมสืบสวนอาชญากรรมอัจฉริยะ), พัค มยอง-ฮุน รับบทเป็น ชอน (ผู้อำนวยการวอยซ์ฟิชชิ่ง), และ อี จู-ยอง รับบทเป็น กัง ชิล (แฮกเกอร์)

เนื้อเรื่องเป็นเรื่องราวของ พัค ซอ-จุน โดยเขานั้นอดีตเคยเป็นอดีตนักสืบยอดฝีมือ และปัจจุบันเขากับครอบครัวรวมทั้งเพื่อนร่วมงานกลายเป็นเหยื่อวอยซ์ฟิชชิ่งที่ทำกันเป็นขบวนการ ทำให้ครั้งนี้เขาต้องลงมือจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์เองเพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้ คนกลุ่มนี้จะสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นอีกเป็นจำนวนมาก เมื่อเขามุ่งมั่นตั้งใจจะทำลายระบบคอลเซ็นเตอร์จึงได้เจาะข้อมูลของระบบนี้ดู เขาจึงได้พบนักออกแบบวอยซ์ฟิชชิ่งที่มีชื่อว่า โปรควัก ซึ่งเป็นคนสำคัญของวอยซ์ฟิชชิ่ง เพราะเขาเป็นคนคิดวางแผนเพื่อหลอกดูดเงินในบัญชีธนาคารของเหยื่อทุกรายด้วยการตัดสัญญาณโทรศัพท์ขณะกำลังใช้งานอยู่จนได้เงินมหาศาล ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ พัค ซอ-จุน จะสามารถทวงคืนเงินที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์วอยซ์ฟิชชิ่งขโมยไปได้สำเร็จหรือไม่ เชิญมาลุ้นติดตามต่อที่นี่ได้เลย

หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ขอสรุปว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังแอ็กชัน ดรามา อาชญากรรม เป็นหนังที่มีคุณภาพอีกเรื่องหนึ่ง เพราะเนื้อหาภายในหนังมีการถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ระบาดหนักในยุคปัจจุบัน ทำให้คนดูเข้าใจถึงที่ไปที่มาว่าทำไมบางคนถึงถูกหลอกให้กลายเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพง่ายมาก ส่วนพล็อตเรื่องนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก นอกจากนี้จุดเด่นของหนังก็มีเยอะเหมือนกันคือ ข้อแรกหนังมีการดำเนินเรื่องได้กระชับมาก ไม่ยืดเยื้อ ทำให้คนดูดูเพลินและคอยลุ้นไปกับตัวละครในเรื่องด้วย ถัดมาข้อสองตัวละครหลักทุกคนแสดงได้ดีมาก ส่วนข้อสามบรรยากาศภายในฉากใช้การคุมโทนสีได้ดีมาก ซึ่งจุดนี้แหละมีส่วนช่วยกระตุ้นให้คนดูอินไปกับการรับชมด้วย ข้อสุดท้ายฉากแอ็กชันตัวละครต่อสู้กันได้อย่างดุเดือดมาก สำหรับเทคนิคทางด้านของแสง สี บรรยากาศ และองค์ประกอบโดยรวมของหนังถือว่าดีมาก ดังนั้นคะแนนภาพรวมทั้งหมดของหนังเรื่องนี้เราให้เต็ม 10 คะแนน