Orion and the Dark (2024) โอไรออนท่องแดนมหัศจรรย์รัตติกาล
แอนิเมชัน เรื่อง Orion and the Dark (2024) โอไรออนท่องแดนมหัศจรรย์รัตติกาล ประเภท คอเมดี้ / แฟมิลี กำกับการแสดงโดย ชอว์น ชาร์แมตซ์ เสียงพากย์หลัก เจคอบ เทรมเบลย์ , พอล วอลเตอร์ ฮาวเซอร์ , แองเจลา บาสเซ็ตต์ เรื่องราวของเด็กชายผู้ที่ได้เผชิญหน้ากับความกลัวที่สุดของเขาอย่าง “ความมืด” ทำให้เขาได้ถูกพาตัวออกผจญภัยในโลกเพื่อเปิดมุมมองต่าง ๆ ของตัวเอง
โอไรออน เด็กชายที่มีนิสัยขี้กลัวอย่างสุดขีด เขากลัวทุก ๆ อย่าง ผ่านการจินตนาการของตัวเองล่วงหน้าทั้ง ๆ ที่เรื่องยังไม่เกิด ส่งผลให้เขากลายเป็นเด็กที่เก็บตัว กังวล และเศร้าหมอง จนทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเกิดอุปสรรคมากมาย อย่างเช่น งานทัศนศึกษาที่กำลังมาถึง เด็ก ๆ คนอื่นต่างพากันดีใจที่จะได้ออกเดินทาง ผิดกับโอไรออนที่กังวลอย่างมาก เขาไม่อยากไปทัศนศึกษาในครั้งนี้ เนื่องจากกังวลว่ารถจะเกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง แต่สิ่งที่เขานั้นกลัวมากที่สุดในชีวิตนั้นก็คือ ความมืด ในตอนกลางคืนโอไรออนพยายามที่จะเปิดประตูห้องตัวเอง เพื่อให้มีแสงลอดเข้ามาภายในห้องเพียงเล็กน้อยก็ยังดี แต่ก็ไม่เป็นผลไฟได้ดับลงหลังจากพ่อและแม่ของเขาเข้านอน ขณะที่โอไรออนกำลังต่อสู้กับความมืดอยู่นั้น มีเงาสีดำคืบคลานเข้ามาใกล้ ๆ ก่อนจะปรากฏตัวเป็นรูปร่างสีดำ มีตาและปาก มันได้บ่นโอไรออนทันที เนื่องจากมันต้องมานั่งฟังเสียเด็กชายในทุก ๆ คืน เนื่องจากอาการกลัวความมืด หลังจากพูดคุยกันเล็กน้อยทำให้โอไรออนได้รู้ว่าสิ่งประหลาดตรงหน้าของเขามีนามว่า “มืดมิด” ทั้งสองได้บอกเล่าเรื่องราวของตัวเองเรื่องความกลัวของโอไรออนที่ไม่อยากจะเป็นแบบนี้ตลอดไปเหมือนกัน มืดมิดได้เสนอแนวทางว่าจะพาเขาตามติดชีวิตการทำงานของตัวเองดู เผื่อจะช่วยเรื่องความกลัวของตัวเองแถมยังได้เยี่ยมชมความสวยงามของกลางคืนด้วย และนี้ก็คือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยของเด็กชายขี้กลัวที่ต้องออกเดินทางกับสิ่งที่ตัวเองกลัวมากที่สุด เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามในภาพยนตร์เต็มกันได้เลย
เป็นหนังที่ยังสร้างในเซฟโฟนไม่ค่อยได้แสดงจินตนาการเท่าไรนัก ยังเป็นหนังที่คงแพทเทิลเดิม ๆ ของหนังสร้างแรงบันดาลใจทั่ว ๆ ไปอยู่ โดยเนื้อหาจะเน้นเป็นการสร้างความรู้สึก อารมณ์ต่าง ๆ ให้กับผู้ชม นังไม่เพียงแต่เป็นแหล่งแรงบันดาลใจและการเรียนรู้ แต่ยังเป็นหนังที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถรับชมได้ด้วย ทางด้านกราฟิกก็ถือว่าทำออกมาได้สมูท สมจริง ภาพสวยใช้ได้ แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นฉากกลางคืน แต่ทีมงานยังเพิ่มแสงให้เห็นรายละเอียดของงานที่ค่อนข้างละเอียดเลยล่ะ ส่วนตัวชอบภาพยนตร์เรื่องนี้มาก ๆ เพราะตัวเนื้อหาสื่อเรื่องของการปลดระวางความกลัวหรือการอยู่ในเซฟโซนของตัวเองได้เป็นอย่างดี ทำให้หลังจากดูจบกลับมองตัวเองอีกครั้งเลยล่ะ รวม ๆ แล้วขอให้คะแนนอยู่ที่ 8.5/10
ความคิดเห็น