เสียง : ไทย

6.1

หนังเรื่อง Project Wolf Hunting (2022) เรือคลั่งเกมล่าเดนมนุษย์ เป็นหนังเกาหลีแนวแอ็กชัน อาชญากรรม ระทึกขวัญ กำกับภาพโดย ยุน จู-ฮวาน ตัดต่อภาพโดย ชิน มินคยอง และ อี การัม เขียนบท และกำกับการแสดงโดย ฮง ซอน คิม มาพร้อมกับนักแสดงนำมากมาย ได้แก่ ซอ อิน-กุก รับบทเป็น พัค จง ดู (มือสังหารตาบอด), จาง ดง-ยุน รับบทเป็น อี โด-อิล (อาชญากรโหดเหี้ยม), ชเว กวิ-ฮวา รับบทเป็น อัลฟา, พัค โฮ-ซาน รับบทเป็น ลี ซอก วู, จองโซมิน รับบทเป็น ลี ดา-ยอน, โก ชาง ซอก รับบทเป็น โก กึน-แบ, จาง ยอง นัม รับบทเป็น ชเว มยอง จู, และ ซอง ดง อิล รับบทเป็น โอ แด-วอง
เนื้อเรื่องเป็นเรื่องราวของนักฆ่ารายหนึ่งซึ่งตาบอด (พัค จง ดู) ได้รับคำสั่งให้มาทำภารกิจจากตำรวจสากลให้ตามล่านักโทษอาชญากรทั้งหมด โดยหนึ่งในนั้นมีอาชญากรโหดเหี้ยมชื่อว่า อี โด-อิล ที่ทุกคนหมายหัวไว้ และ พัค จง ดู ต้องลากตัวนักโทษรายนี้กลับมารับโทษตามกฎหมายที่ประเทศเกาหลีใต้ให้ได้ ในเวลาต่อมาก็เกิดเหตุการณ์สนามบินถูกวางระเบิด จึงทำให้เขาต้องเคลื่อนย้ายนักโทษลงเรือข้ามมหาสมุทรแทนการขึ้นเครื่องบิน และในการนั่งเรือในครั้งนี้ต้องใช้เวลาทั้งหมดสามวันถึงจะถึงเข้าใกล้จุดหมายปลายทางอย่างนครปูซานได้ แล้วในขณะที่เขาอยู่บนเรือนั้น จู่ ๆ เหล่านักโทษอาชญากรรมกว่า 47 ชีวิตก็อยากได้อิสระเลยวางแผนเพื่อแหกคุกกัน ไม่นานเขาก็ไหวตัวทันจึงต้องลุกขึ้นมาจัดการอาชญากรกลุ่มนี้ด้วยตัวเอง แต่กลับพบว่ามีบางสิ่งบางอย่างอาศัยอยู่ใต้ท้องเรือด้วย ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ พัค จง ดู จะสามารถนำอาชญากร อี โด-อิล กลับไปรับโทษได้สำเร็จหรือไม่ และจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้างบนเรือลำนี้ เชิญทุกคนมาลุ้นเพื่อติดตามต่อที่นี่ได้เลย

หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ขอสรุปว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังแอ็กชัน อาชญากรรม ระทึกขวัญ โดยเรื่องราวภายในหนังเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายนักโทษอาชญากรรมขึ้นมาบนเรือ และนักโทษอยากได้อิสระเพราะถูกจำกัดบริเวณจึงทำให้เกิดความเครียดเลยคิดที่จะหนี แต่บังเอิญว่าบริเวณนั้นอยู่กลางทะเล แถมยังมีนักฆ่าตาบอดฝีมือดีมาขวางไว้ทำให้เกิดการต่อสู้อย่างดุเดือดแบบไม่มีใครยอมใคร สำหรับด้านพล็อตเรื่องถือว่าพอใช้ได้ ส่วนจุดเด่นของหนัง ได้แก่ ตัวละครแสดงสมบทบาททุกคน แถมยังมีฉากแอ็กชันที่เข้มขึ้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้คนดูรู้สึกลุ้นระทึกไปกับตัวละครด้วย ส่วนจุดด้อยของหนังก็มีเหมือนกันคือ ทั้งเรื่องมีแต่ฉากต่อสู้ และฆ่ากันอย่างไร้ความปราณี ซึ่งจุดนี้แหละที่ทำให้หนังดูน่าเบื่อ ถัดมาคือมีปมชวนให้คนดูสงสัยว่าตัวละครนี้โผล่มาจากไหน เพราะไม่ได้มีการเล่าเรื่องมาตั้งแต่ต้น แถมบทสนทนาภายในเรื่องยังใช้เวลาสั้นมากจนคนดูดูไม่รู้เรื่อง สุดท้ายนี้เรื่องเทคนิคเกี่ยวกับสี แสง ฉาก บรรยากาศ และองค์ประกอบอื่น ๆ โดยรวมของหนังถือว่าทำได้ดี ไม่ได้แย่มากจนเกินไป ดังนั้นคะแนนภาพรวมทั้งหมดของหนังเรื่องนี้เราให้อยู่ที่ 6 เต็ม 10 คะแนน