หนังเรื่อง Puss in Boots 2 The Last Wish (2022) พุซ อิน บู๊ทส์ 2 เป็นหนังการ์ตูนแอนิเมชันแนวผจญภัยอเมริกา ตลก อำนวยการสร้างโดย มาร์ก สวิฟต์ เขียนบทโดย พอล ฟิชเชอร์, ทอมมี สวีร์ดโลว์ และ โทมัส เอ็ดการ์ วีลเลอร์ ตัดต่อภาพโดย เจมส์ ไรอัน กำกับการแสดงโดย โจเอล ครอว์ฟอร์ด มาพร้อมกับนักแสดงนำมากมาย ได้แก่ โฆเซ อันโตนิโอ โดมิงเกซ บันเดรา พากย์เสียงเป็น พุซ อิน บู๊ทส์ (มหาโจรแมว 9 ชีวิต), ซัลมา ฮาเยก ปีโน พากย์เสียงเป็น คิตตี้ ซอฟต์พอว์ส (แมวคู่อริพุซ), ฟลอเรนซ์ พิวจ์ พากย์เสียงเป็น โกลดิล็อกส์, แอนโทนี เมนเดซ พากย์เสียงเป็น พุซ, จาเวียร์ “ฮาร์วีย์” กิลเลน พากย์เสียงเป็น เพอร์โร (น้องหมา), ซาราห์ แคโรไลน์ โอลิเวีย โคลแมน พากย์เสียงเป็น แม่หมี, เรย์มอนด์ แอนดรูว์ วินสตัน พากย์เสียงเป็น พ่อหมี, วากเนอร์ มูรา พากย์เสียงเป็น หมาป่า, จอห์น เอ็ดมันด์ มัลเลนีย์ พากย์เสียงเป็น แจ็ค ฮอร์เนอร์, แซมซั่น คาโย พากย์เสียงเป็น ลูกหมี

เนื้อเรื่องจะเป็นเรื่องราวของมหาโจรแมวที่มี 9 ชีวิตอย่าง พุซ อิน บู๊ทส์ แต่เขากลับเหลือแค่ชีวิตเดียวจึงเกิดความกลัวขึ้นมาเลยต้องไปหาที่พักพิงใจ ทำให้เขาเจอกับน้องหมาที่ชื่อว่า เพอร์โร แต่แล้วก็มีบางอย่างมาทำลายความสุขของเขาซึ่งก็คือ ครอบครัวหมี และโกลดิล็อกส์ เข้ามาป่วนชีวิตเขา แถมยังว่าจ้างงานให้เขาไปทำภารกิจขโมยแผนที่จาก แจ็ค ฮอร์เนอร์ และถ้าหากเขาทำสำเร็จเขาจะได้รับพรให้กลับมามี 9 ชีวิตอีกครั้งหนึ่ง เขาจึงเริ่มภารกิจนี้ทันที จากนั้นก็ออกเดินทางไปพบกับ คิตตี้ ซอฟต์พอว์ส (แมวคู่อริ) เพื่อขอร้องให้ช่วยเหลือเขาทำให้งานครั้งนี้ประสบความสำเร็จ แต่มันไม่ง่ายเลยเพราะทั้งคู่มีคู่แข่งเป็นครอบครัวหมีด้วย ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ ทั้ง พุซ และ คิตตี้ จะทำภารกิจขโมยแผนที่สำเร็จไหม และเขาจะกลับมามี 9 ชีวิตอีกครั้งได้ไหม เชิญมาลุ้นต่อที่นี่เลย

หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ขอสรุปว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังแนวผจญภัยอเมริกา ตลก หนังการ์ตูนเรื่องนี้น่าติดตามมาก คนทุกวัยสามารถดูได้ แถมภายในเรื่องยังสะท้อนให้คนดูเห็นถึงการรู้จักคุณค่าของชีวิต รวมถึงทำให้รู้ว่าเวลาเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิตด้วย สำหรับด้านพล็อตเรื่องนี้ถือว่าทำออกมาได้ดี ส่วนจุดเด่นของหนังการ์ตูนเรื่องนี้คือมีฉากที่แสดงให้คนดูรู้เลยว่าเป็นของเรื่องนี้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีมุกตลกขบขันในเรื่องช่วยให้ผ่อนคลายได้บ้าง และที่สำคัญตัวละครทุกตัวนำออกมาจากโลกของนิทานแล้วแต่งเรื่องขึ้นทำให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ของคนเขียนบท แต่จุดด้อยมีแค่ข้อเดียวคือมีการใช้คำพูดเสียดสีตัวละครอื่นที่อาจจะดูมากเกินไป สุดท้ายนี้เทคนิคทางด้านของแสง สีสวยมาก องค์ประกอบโดยรวมของหนังถือว่าดีในระดับหนึ่ง ส่วนคะแนนภาพรวมทั้งหมดของหนังเรื่องนี้เราให้อยู่ที่ 7.8 เต็ม 10 คะแนน