เสียง : ไทย

7.5

ภาพยนตร์ดราม่า / ระทึกขวัญ เรื่อง Rest In Peace (2024) สู่สุคติ กำกับโดย Martin Baintrub นักแสดงนำ โจควิน ฟอร์เรล,กรีเซลดา ซิชีเลียนี,กาเบรียล โกยตี เรื่องราวของชายที่ประสบปัญหาด้านสุขภาพและเงินอย่างหนัก แต่แล้วเหมือนโชคชะตาได้เล่นตลก ทำให้เขาได้เจอกับเหตุการณ์บางอย่างที่จะจะช่วยกู้สถานะการณ์ครอบครัวของเขาได้ แต่มันก็ต้องแลกกับบางอย่าง

เริ่มต้นที่ ชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังมองออกไปหน้าต่าง ขณะที่เขาอยู่ในร้านเครื่องเพชร เขาเหม่อมองไปยังชายไร้บ้านด้วยสีหน้าเวทนาก่อนที่จะถูกขัดด้วยเสียงของเจ้าของร้าน ได้บอกถึงสินค้าที่เขาเลือกเอาไว้ได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ณ งานปาร์ตี้ เขาใช้เวลาร่วมกับครอบครัวซึ่งประกอบด้วยภรรยา ลูกสาวและลูกชาย ขณะที่ลูกสาวของเขาขึ้นกล่าวอวยพรอยู่นั้น เขาดูรู้สึกปลื้มใจอย่างมาก แต่แล้วในขณะนั้นเองเขาเหลือมองเห็นชายปริศนาที่จ้องมามายังเขา ซึ่งนี้ทำให้เขาเริ่มเกิดอาการวิตกกังวลก่อนจะสลบลงไป ภรรยาพยายามเรียกชื่อเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งชายคนนี้มีชื่อว่า เซอร์คิโอ หลังจากที่เขาฟื้นภรรยาได้สอบถามเรื่องรวาทั้งหมด ทำให้หล่อนรู้ว่าธุรกิจของเซอร์คิโอไม่ค่อยราบรื่นเท่าไรนัก เซอร์คิโอรู้สึกจนมุมกับหนี้สินทั้งหมดเป็นอย่างมาก แต่แล้วเหมือนเหตุการณ์บางอย่างก็เกิดขึ้น ทำให้เขาตัดสินใจใช้เหตุบังเอิญนี้หายตัวไป พร้อมกับใช้ชีวิตที่ห่างไกลจากประเทศตัวเอง โดยอาศัยการหลบซ่อน ไม่ระบุตัวตน เวลาผ่านไปเซอร์คิโอได้รับรู้ถึงครอบครัวตัวเองที่ดำเนินชีวิตแบบที่ไม่มีเขาอยู่ จนทำให้เซอร์คิโอเริ่มเกิดคำถามมากมาย หมกมุ่นอยู่กับความคิดว่านี้เป็นสิ่งที่เขาตัดสินใจถูกหรือไม่ กับการที่ถูกลืมจากคนที่รัก เซอร์คิโอได้เริ่มกลับมาทบทวนตัวเองอีกครั้ง เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร เขาจะตัดสินใจดำเนินชีวิตแบบเดิมไปจนตายหรือเลือกที่จะเผชิญหน้ากับความจริงอีกครั้ง ร่วมกันติดตามกันต่อในหนังเต็มกันได้เลย

ภาพยนตร์จากทางสตรีมมิ่งดังอย่าง Netflix โดยหนังเรื่องนี้จะเปิดให้ราเหตุปัญหาของตัวละครตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นเลย ซึ่งถือว่าเล่าได้ดี เพราะคนดูสามารถจินตนาการถึงสถานะและปัญหาที่ตัวละครเจอได้ทันที แม้ว่าจะไม่มีการเล่าอย่างละเอียดก็ตาม ส่วนใหญ่หนังจะพาให้เราตามติดชีวิตของตัวละครหลักอย่าง เซอร์คิโอ เปิดเผยมุมมองเพียงด้านเดียว อาจทำให้มิติของตัวละครอื่นดูน้อยไปหน่อย การเรียบเรียงเรื่องราวไม่ได้มีอะไรมาก ถือว่าหนังสามารถทำให้เราเกิดความสงสัยและดูตั้งแต่ต้นจนจบได้ว่าสรุปแล้วตัวละครจะตัดสินใจอย่างไร แม้ว่าบางฉากอาจดูน่าเบื่อไปนิดนึงก็ตาม ด้านงานแสงถือว่าจัดได้ดี การแสดงอยู่ระดับกลาง ๆ ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมาย รวม ๆ แล้วหนังเรื่องนี้เราขอให้คะแนนอยู่ที่ 7/10