เสียง : ไทย

5

หนังเรื่อง Run Rabbit Run (2023) เป็นหนังฝรั่งแนวสยองขวัญ ระทึกขวัญทางจิตวิทยา อำนวยการสร้างโดย แอนนา แมคลีช และ ซาราห์ ชอว์ เขียนบทโดย ฮันนาห์ เคนท์ กำกับภาพโดย บอนนี เอลเลียต ตัดต่อภาพโดย นิค เมเยอร์ส กำกับการแสดงโดย ไดนา รีด มาพร้อมกับนักแสดงนำมากมาย ได้แก่ ซาราห์ รูธ สนุค รับบทเป็น ซาราห์ (แพทย์หญิงและแม่ของ มีอา), ลิลลี ลาทอร์เร รับบทเป็น มีอา (ลูกสาวของ ซาราห์ กับ ปีเตอร์), เดมอน เฮอร์ริแมน รับบทเป็น ปีเตอร์ (อดีตสามี ซาราห์และพ่อของ มีอา), และ เกรตา สค็อกชิ รับบทเป็น โจแอน (ย่าของ มีอา)

เป็นเรื่องราวของแพทย์หญิงคนหนึ่งที่มีชื่อว่า ซาราห์ เธอเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านการสืบพันธุ์ และเจริญพันธุ์ในผู้หญิงที่มีบุตรยาก ด้วยความเป็นแพทย์เธอจึงเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์เป็นอย่างดี แต่มีเพียงคนเดียวที่เธอนั้นไม่สามารถเข้าใจกระบวนการคิดได้ คน ๆ นั้นก็คือลูกสาววัย 7 ขวบของเธอเอง (มีอา) โดยระยะหลังมานี้เธอแอบสังเกตพฤตกรรมที่ผิดปกติของลูกสาวอยู่เป็นประจำ ซึ่งจุดเริ่มต้นของพฤติกรรมเหล่านี้มาจากคืนวันเกิดของมีอา เธอเห็นกระต่ายตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาในสวนหลังบ้านเธอจึงอุ้มกระต่ายตัวนี้ไปอีกฟากหนึ่งของกำแพงบ้าน แต่จู่ ๆ มันกลับใช้ฟันกัดบริเวณหลังมือเธอจนเป็นแผล มีอา เลยฆ่ากระต่ายตัวนี้ให้ตายทันที หลังจากนั้นมา มีอา ก็เริ่มพูดน้อยลง และไม่สนใจสิ่งรอบข้างอีกต่อไป โดยเธอหันมาทำหน้ากากเป็นรูปกระต่ายแล้วใส่ปิดบังบนใบหน้าตลอดเวลา นอกจากนี้ เมื่อถึงเวลาไปโรงเรียนในตอนเช้าของทุกวัน มีอา ก็ไม่ยอมถอดหน้ากากออกโดยให้เหตุผลกับ ซาราห์ ว่าเพื่อนร่วมชั้นเรียนรังแก จึงอยากหลบซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากจะได้รู้สึกว่าตนเองปลอดภัย จนเวลาผ่านไปได้ไม่นาน มีอา เอ่ยปากยอมพูดกับ ซาราห์ เพราะมีจุดประสงค์อยากไปเยี่ยมย่า (โจแอน) ซึ่งเป็นคนเดียวที่ มีอา ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนตั้งแต่เกิดมา ซาราห์จึงพา มีอา ออกไปหาย่าที่บ้านหลังหนึ่งทันที ซึ่งเหตุผลที่พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันก็เป็นเพราะว่า โจแอน ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมเลยต้องมีพยาบาลคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง และพอทั้งคู่มาถึงย่าก็เรียกหลานสาวตนเองว่า อลิซ เมื่อ มีอา ได้ยินชื่อนี้ก็ควบคุมสติไม่ได้ ซาราห์ จึงต้องหาวิธีแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้าให้กลับมาเป็นปกติด้วยการแยกย่ากับหลานออกจากกัน แต่กลับทำให้มือของ มีอา บาดเจ็บขึ้นมา จากนั้น ซาราห์ ก็ทำให้มือของตนเองเจ็บบ้างทั้งที่มือเธอมีแผลติดเชื้ออยู่จากการถูกกระต่ายตัวนั้นกัดซึ่งยังไม่หายดี เธอก็ได้สร้างแผลใหม่เพิ่มเพื่อตอกย้ำความเจ็บปวด

ในเวลาต่อมา มีอา ก็เดินเข้าไปพบเธอแล้วขอภาพถ่ายของครอบครัว เพราะต้องทำการบ้านส่งคุณครูเป็นแผนภูมิต้นไม้ ซาราห์เลยค้นภาพถ่ายในอดีตที่มีทั้งตนเองกับน้องสาวที่หายสาบสูญไปนานแล้ว (อลิซ) ขึ้นมาดูแต่กลับถูก มีอา แย่งภาพถ่ายในมือไป มีอาบอกกับเธอว่าบนรูปใบนี้มีทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตาแล้วเธอจะใช้ภาพนี้วาดส่งคุณครู หลังจากนั้นมา มีอา ก็หมกมุ่นอยู่แต่ในห้องและวาดภาพจนไม่สนใจสิ่งรอบกายอีกเลย แถมพฤติกรรมที่แสดงออกมาก็รุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วน ซาราห์ หลังจากดูภาพถ่ายของน้องสาวตนเอง เธอสังเกตว่าลักษณะใบหน้าของ มีอา กับน้องสาวของเธอมีความคล้ายกันมากจนแยกไม่ออก เธอจึงเกิดอาการหลอนทางประสาทว่า มีอา คือน้องสาวของเธอ ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อนั้น ซาราห์ กับ มีอา จะก้าวผ่านเรื่องเลวร้ายเหล่านี้ไปได้หรือไม่ และจะเกิดเหตุการณ์สยองขวัญอะไรกับแม่ลูกคู่นี้อีกจะหรือไม่ เชิญทุกคนมาลุ้นติดตามไปพร้อมกันได้ที่นี่เลย

หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว ขอสรุปว่าเป็นหนังสยองขวัญทางจิตวิทยาที่ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับแพทย์หญิงซึ่งทำงานอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และเป็นแม่ของเด็กสาวคนหนึ่ง แต่ภายหลังกลับมีเรื่องที่เข้ามากระทบสมองภายทำให้บางครั้งเธอก็คิดว่าลูกสาวตัวเองเป็นน้องสาวของเธอที่หายตัวไปนานอย่างไร้ร่องรอย จากนั้นพฤติกรรมของลูกสาวเธอก็ก้าวร้าว และรุนแรงมากขึ้นทุกวันจนเธอสับสน และควบคุมสติไม่ได้ ดังนั้นใครที่จะดูหนังเรื่องนี้ต้องเข้าใจชีวิต และจิตวิญญาณของมนุษย์เสียก่อนถึงจะดูหนังรู้เรื่อง ส่วนพล็อตเรื่องถือว่าดีในระดับหนึ่ง จุดเด่นของหนังมีหลายข้อคือ ทั้ง ซาราห์ รูธ สนุค และ ลิลลี ลาทอร์เร แสดงได้สมบทบาทมาก แถมยังถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกต่าง ๆ ออกมาได้ดีมากจนทำให้คนดูอินไปกับตัวละครหลักอย่างง่ายดาย ต่อมาในตอนจบได้มีการเฉลยปริศนาที่เป็นปมชวนให้คนดูหายสงสัยว่าแท้จริงแล้วเรื่องราวในอดีตที่น้องสาวของเธอหายไปนั้นมีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ สำหรับจุดด้อยของหนังคือ มีการดำเนินเรื่องที่เป็นไปด้วยความซับซ้อน นอกจากนี้บรรยากาศภายในหนังยังดูอึมครึม มืดมน น่ากลัวน้อยกว่าที่คิดไว้ เป็นหนังสยองขวัญที่ไม่ค่อยหลอนสักเท่าไร รวมทั้งการสร้างคาแร็กเตอร์ให้ ลิลลี ลาทอร์เร ต้องสวมใส่หน้ากากกระต่ายตลอดเวลาแล้วแสดงอารมณ์รุนแรงอาจจะทำให้คนดูเกิดความรำคาญตรงจุดนี้ เพราะรู้สึกเบื่อ ส่วนทางด้านโทนสีของภาพมองดูแล้วไม่ค่อยสดใส จึงทำให้หนังถูกลดความน่าสนใจลงไปเล็กน้อย ซึ่งจุดที่ผิดพลาดทั้งหมดถ้าปรับปรุงได้จะช่วยให้หนังมีคุณภาพมากกว่านี้อย่างแน่นอน ที่สำคัญคือ เทคนิคต่าง ๆ ด้านแสง สีมีความมืดมน ฉากดูแล้วหลอน ๆ บรรยากาศก็วังเวง และสุดท้ายองค์ประกอบอื่นของหนังค่อนข้างดี เพราะฉะนั้นเราขอให้คะแนนหนังอยู่ที่ 7 เต็ม 10 คะแนน