เสียง : ไทย

7.2

ภาพยนตร์เรื่อง Rurouni Kenshin The Final (2021) รูโรนิ เคนชิน ซามูไรพเนจร ปัจฉิมบท เป็นภาพยนตร์ Life Action ของญี่ปุ่น สร้างมาจากมังงะชื่อดังของ โนบุฮิโระ วาสึกิ เป็นตำนานของซามูไรพเนจร ในครั้งนี้เรื่องราวจะเข้มข้นกว่าเดิม ซึ่งครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่ผู้นำมาเฟียแห่งเซี่ยงไฮ้ ยูกิชิโระ เอนิชิ ในขณะที่เขาจัดการโจมตีผู้บริสุทธิ์ เพื่อทรมานอดีตนักฆ่า เคนชิน เพื่อเป็นการแก้แค้นแทนพี่สาว และได้นักแสดงมากความสามารถ นำทัพโดย ทาเครุ ซาโตะ รับบทเป็น ฮิมูระ เคนชิน, แม็คเคนยู รับบทเป็น ยูกิชิโระ เอนิชิ, เอมิ ทาเคอิ รับบทเป็น คาโอรุ คามิยะ ที่ยังคงทุ่มเท และแสดงผลงานออกอย่างดีเยี่ยม

ณ สถานีรถไฟของ โยโกฮาม่า ในปี 1879 ตำรวจได้รับรายงานว่า มีพ่อค้าอาวุธจากเซี่ยงไฮ้ อยู่บนรถไฟ เอนิชิ ซึ่งเขาคือ น้องชายของ โทโมเอะ หัวหน้าตำรวจ อย่าง ไซโตะ ก็สั่งให้ลูกน้อง เข้าจับในทันที แต่ เอนิชิ ก็จัดการกับตำรวจได้ พร้อมกับถามว่า บนแก้มของ บัตโตไซ ยังมีรอยกากบาทอยู่หรือไม่ ตำรวจก็พยักหน้า แต่สุดท้ายเขาก็ยอมมอบตัว ตัดมาที่สำนักซ้อมดาบของกองบังคับบัญชา ตำรวจมหาดไทย เคนชิน หรือมือพิฆาตบัตโตไซ เข้ามาคุยกับเอกาวะหัวหน้าฝึกซ้อม พวกเขาคุยกันถึงเรื่องราวหลังจากการปฏิรูป เมจิมา ซึ่งผ่านมาแล้ว 12 ปี แทบไม่มีสงครามเกิดขึ้น ตั้งแต่รัฐบาลส่งกองกำลังไปยังไต้หวัน ส่วนริวกิวก็ยังเจรจากับราชวงศ์ชิงอยู่ ว่าริวกิวนั้นเป็นของญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้หากจะเกิดสงครามก็คงจะเกิดกับราชวงศ์ชิง ภาพตัดมาที่ เอนิชิ ตำรวจได้ส่งตัวเขา ให้กับคนของราชวงศ์ชิง พอไซโตะรู้ข่าวก็เข้าไปคุยกับหัวหน้าว่าปล่อยตัว เอนิชิ ส่งให้กับพวกจีนได้อย่างไร หัวหน้าจึงตอบไปว่า เอนิชิ อยู่ในการปกครองของจีน จากนั้นภาพตัดมาที่ ร้านเนื้อ คาเบโกะ ที่เคนชินกำลังนั่งกินข้าวอยู่นั้น เอนิชิ มาพร้อมกับลูกน้องที่กำลังเตรียมยิงระเบิดเข้ามาในตัวเมือง หลังจากเคนชินกำลังเตรียมตัวเดินทางกลับบ้าน ก็ได้เกิดระเบิดขึ้นภายในเมือง ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ตำรวจก็ได้วิ่งเข้าไปที่เกิดเหตุ เคนชินจึงได้สอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ตำรวจจึงบอกว่ามีคนยิงปืนใหญ่ มาจากเนินเขาเข้ามาในเมือง พอตำรวจเดินทางไปยังเนินเขาก็ไม่พบร่องรอยปืนใหญ่หลงเหลือเลย แต่พบกับผ้าที่ถูกเขียนตัวอักษรทิ้งไว้ว่า มนุษย์ลงทัณฑ์ เห็นชินจังได้บอกว่าในช่วงรัฐบาลโชกุนก็เคยมีชอบใช้คำแบบนี้ เพื่อแค่ต่างเวลาฆ่าคน หลังจากนั้นไซโตะก็พูดขึ้นว่า ก็อาจจะเป็นฝีมือของคนที่มาจากเซี่ยงไฮ้ ที่ขายเรือรบให้กับชิชิโอ ได้ยังถามถึงบัตโตไซว่ายังมีรอยแผลอยู่ที่หน้าหรือเปล่า ซึ่งเรื่องราวของ บาดแผลบนใบหน้าของ เคนชิน มาจาก โทโมเอะ ภรรยาเก่าของ เคนชิน สตรีที่ถูกเขาปลิดชีพเองกับมือ เธอได้ทิ้งแผลเป็นกากบาทไว้ที่ใบหน้าของ เคนชิน จากดาบของความแค้น ซึ่งมันจะไม่หายตราบใดที่ความแค้นนั้นยังไม่ได้รับการชำระ การล้างแค้นของ เอนิชิ ให้กับพี่สาว โดยไม่สนว่าจะมีผู้บริสุทธิ์ต้องตายกี่คน เรื่องราวการต่อสู้สุดดุเดือดการล้างแค้น จะจบลงอย่างไรต้องไปติดตามกัน

หลังจากรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้จบคะแนนที่เราจะให้คือ 8/10 คะแนน ว่าด้วยเรื่องของฉากแอคชันที่มาแน่น สมเป็นหนังแนวต่อสู้ ซึ่งเราจะได้ชมกันตั้งแต่ครั้งแรก การต่อสู้ของเพลงดาบศิลปะการป้องกันตัว การดำเนินเรื่องไม่ยืดเยื้อ ส่วนตัวแล้วรู้สึกชอบฉากที่กระโดดขึ้นรถไฟของตัวร้าย และฉากของ เคนชิน ที่เป็นฉากวิ่งขึ้นหลังคาหลบลูกกระสุนปืนกล แล้วลงมาฝันคนร้าย ซึ่งภายในฉากของเรื่องเป็นแนวย้อนยุค ของประเทศญี่ปุ่น สถานีรถไฟโยโกฮาม่า ฉากของตลาดอาซากุสะ ได้กลิ่นอายในปี 1879 ซึ่งทำออกมาได้สวยงามดูมีชีวิตชีวาและสมจริงมากๆ การดำเนินเรื่องหลักในส่วนของการล้างแค้นของตัวร้ายค่อนข้างชัดเจน ทำให้เราเห็นจุดประสงค์ในการต่อสู้ครั้งนี้ แต่ก็มีบทบาทของตัวละครอื่น สอดแทรกในเรื่องของเพื่อน การร่วมกันต่อสู้ในครั้งนี้ที่จะทำให้เราลุ้นระทึก สนุกสุดมันไปกับฉากต่อสู้ต่างๆ สำหรับใครที่เป็นแฟนคลับภาพยนตร์เรื่องนี้แนะนำให้รับชมปัจฉิมบท รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
คะแนนภาพรวม : 8/10 คะแนน