เสียง : ไทย

5.5

หนังเรื่อง Sang Krasue 2 (2023) แสงกระสือ 2 เป็นหนังไทยแนวสยองขวัญ ดรามา โรแมนติก เขียนบทโดย ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล กำกับการแสดงโดย ปภังกร ปุญจันทรักษ์ มาพร้อมกับนักแสดงนำมากมาย ได้แก่ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม รับบทเป็น คลาว (ลูกบุญธรรม บาทหลวงออกัสติน), ชัญญา แม็คคลอรีย์ รับบทเป็น สาว (กระสือและลูกสาว น้อย), กฤษดา สุโกศล แคลปป์ รับบทเป็น น้อย (พ่อ สาว), และ โจ คัมมิงส์ รับบทเป็น บาทหลวงออกัสติน

เป็นเรื่องราวของพ่อคนหนึ่ง (น้อย) ที่มีเชื้อสายกระสืออยู่ในร่างกาย และมีลูกสาวชื่อว่า สาว หลังจากนั้นเขาก็เลี้ยงดูลูกสาวคนนี้มาด้วยความรักตลอด 30 ปี แต่แล้ววันหนึ่งลูกสาวเขาก็เติบโตขึ้นกลายเป็นวัยรุ่น เขาจึงมีความกังวลใจว่าเชื้อสายกระสือจะแผลงฤทธิ์ออกมาทำให้ สาว หมดความมั่นใจในรูปร่างของตนเอง และเขาก็ต้องการให้ สาว ได้ใช้ชีวิตเหมือนมนุษย์ปกติทั่วไป จึงเดินทางไปปรึกษากับ บาทหลวงออกัสติน เพื่อช่วยกันหาทางออกของปัญหานี้ ไม่นานพวกเขาก็ได้ทดลองคิดสูตรยาต้านเชื้อกระสือจากการสกัดสมุนไพรว่านหางเสือได้สำเร็จ แต่ในระหว่างนั้น สาว ก็บังเอิญได้พบกับ คลาว ชายหนุ่มที่มีความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด และนับวันพวกเขาทั้งสองคนก็ยิ่งมีความผูกพันกันจนเกิดเป็นความรักขึ้นมาในที่สุด เมื่อเวลาผ่านไปทั้งคู่ก็ดำเนินชีวิตด้วยกันเหมือนมนุษย์ปกติ ไม่นานอาการจากเชื้อสายกระสือของ สาว ก็เริ่มแผลงฤทธิ์ออกมาเรื่อย ๆ จึงทำให้มีคนตามหาตัวเธอ และต้องการนำเชื้อที่อยู่บนร่างกายของเธอไปดัดแปลงพันธุกรรมเพื่อศึกษาทำวิจัยในอนาคต ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อนั้น ใครอยากทราบว่า สาว จะหนีรอดไปจากคนกลุ่มนี้ได้หรือไม่ และความรักของเธอกับ คลาว จะสมหวังไหม สามารถเข้ามาติดตามเพื่อรับชมต่อที่นี่ได้เลย

หลังจากที่ได้ดูหนังจนจบแล้ว ขอสรุปว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญ ดรามา โรแมนติกที่ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับความรักระหว่าง มนุษย์ กับ กระสือ ได้สนุกมาก ทำให้คนดูได้รับความบันเทิงใจ และเห็นความแตกต่างทางสายพันธุ์ที่ไม่น่ามีความเป็นไปได้ แต่ก็เป็นไปได้ ซึ่งเราคิดว่าหนังเรื่องนี้คงถูกใจคนดูไม่น้อยเลย สำหรับพล็อตเรื่องถือว่าทำออกมาได้ดี จุดเด่นของหนังก็คือ มีการจัดมุมกล้องได้อย่างเหมาะสม จึงช่วยให้งานภาพที่ถ่ายออกมาดูแล้วมีความลงตัวที่สุด ส่วนการแสดงของตัวละครหลักทุกคนยอมรับเลยว่าทำออกมาได้ดี และสมบทบาทมาก แต่ถึงอย่างไรจุดด้อยของหนังก็มีเช่นกันคือ การดำเนินเรื่องซับซ้อนมาก รวมทั้งไม่ได้มีการเล่าเรื่องราวของตัวละครภายในเรื่องตั้งแต่ต้นว่าคือใคร และมีแหล่งที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ทำให้คนดูดูแล้วงง ถ้าแก้ไขในจุดนี้ได้จะทำให้หนังดูมีคุณภาพมากขึ้น สุดท้ายเรื่องเทคนิคของแสง ฉาก สีมีความสวยงามมาก บรรยากาศชวนให้หลอนจริง ๆ ส่วนองค์ประกอบอื่น ๆ โดยรวมของหนังก็ทำได้ดี ดังนั้นเราขอให้คะแนนภาพรวมของหนังอยู่ที่ 5 เต็ม 10 คะแนน