Saving Private Ryan (1998) เซฟวิ่ง ไพรเวท ไรอัน ฝ่าสมรภูมินรก
8.6ภาพยนตร์สงคราม / ต่อสู้ เรื่อง Saving Private Ryan (1998) เซฟวิ่ง ไพรเวท ไรอัน ฝ่าสมรภูมินรก กำกับการแสดงโดย สตีเวน สปีลเบิร์ก นักแสดงนำ ทอม แฮงส์, เอ็ดเวิร์ด เบิร์นส์, แม็ตต์ เดม่อน, และ ทอม ไซส์มอร์ เมื่อร้อยเอกจอห์น มิลเลอร์ ทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่สองได้รับภารกิจเสี่ยงตายจากทางกองทัพให้พาทีมทหาร 8 คน ที่อยู่ลึกเข้าไปหลังแนวข้าศึกในฝรั่งเศสเพื่อค้นหาและนำตัวพลทหารเจมส์ ไรอัน กลับบ้าน
เรื่องราวเริ่มต้นในวันที่ 6 มิถุนายน 1944 เหล่าทหารสัมพันธพันธมิตรกำลังถูกลำเลียงขึ้นฝั่งเพื่อปลดปล่อยชาติยุโรปจากกองทัพนาซี เยอรมัน การยกทัพขึ้นบกในครั้งนี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์สุดยิ่งใหญ่อีกครั้งนึงเลยก็ว่าได้ ร้อยเอกจอห์น มิลเลอร์ ผู้นำหน่วยที่เขาสามารถขึ้นฝั่งมาได้สำเร็จ แต่ก็ต้องมองเห็นเพื่อนทหารตายต่อหน้าต่อตาด้วยระเบิด แต่เขาก็ต้องกลับมาตั้งสติเพื่อที่จะนำทัพบุกเข้าไปต่อสู้ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้ได้ หลังจากเหตุการณ์นี้ หน่วยของร้อยเอกจอห์น มิลเลอร์สามารถทำภารกิจได้สำเร็จ แต่หลังจากนั้นอีก 3 วัน เขาได้ถูกเรียกตัวเพื่อเข้ารับภารกิจพิเศษในการเข้าช่วยเหลือ พลทหารเจมส์ ไรอัน โดยเขาเป็นลูกคนสุดท้องของตระกูล เนื่องจากพี่ชายของเขาทั้งสามคนได้จบชีวิตในสนามรบหมดแล้ว กองทัพจึงเห็นว่าควรที่จะเข้าช่วยเหลือพลทหารเจมส์ ไรอันเพื่อนำเขากลับสู่อ้อมกอดของแม่อีกครั้ง ซึ่งภารกิจนี้ก็ทำให้ร้อยเอกจอห์น มิลเลอร์กังวลอยู่ไม่น้อย เนื่องจากจุดที่พลทหารเจมส์ ไรอันอยู่ค่อนข้างเป็นจุดอันตราย แถมยังต้องฝ่าเข้าไปยังแนวหลังข้าศึกอีกด้วย แต่ถึงยังไงพวกเขาก็ต้องเข้าช่วยเหลือและต้องเอาชีวิตรอดกลับมาให้ได้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ ภารกิจนี้จะสำเร็จหรือไม่ ติดตามกันได้ในภาพยนตร์เต็มกันเลย
ภาพยนตร์ของ สตีเวน สปีลเบิร์ก ที่เรารู้ ๆ กันอยู่แล้วว่าฉากต่อสู้ ฉากระเบิดต้องมาเต็มอย่างแน่นอน เรียกว่าทางผู้กำกับจัดมาได้อย่างถึงใจเหมือนว่าเรากำลังอยู่ในสถานการณ์จริง แถมยังมีเส้นเรื่องใส่ภารกิจรวมถึงแทรกเรื่องราวของความสัมพันธ์ตัวละครให้คนดูได้อินกับหนังมากขึ้น การดำเนินเรื่องไม่ได้น่าเบื่อ รู้สึกตื่นเต้นและเอาใจช่วยอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะอ้างอิงประวัติศาสตร์ก็จริง แต่ต้องยอมรับเลยว่าสามารถเล่าเรื่องราวได้น่าติดตามมาก ๆ เลยล่ะ ทางด้านของนักแสดงได้ ทอม แฮงส์ ที่ขึ้นชื่อเรื่องฝีมือมารับบทตัวละครเอกก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ซึ่งภาพรวมถือว่าหนังเรื่องนี้สร้างได้ดีเลยทีเดียว ฉาก องค์ประกอบต่าง ๆ สมจริงมาก ๆ เราจะให้คะแนนอยู่ที่ 9.5/10 สำหรับใครที่มองหาหนังแนวประวัติศาสตร์ สงคราม แนะนำว่าต้องดูให้ได้
ความคิดเห็น
