The Kitchen (2024) เดอะ คิทเช่น

เสียง : ไทย

6.0

สำหรับหนังผจญภัย ดราม่า ไซไฟ เรื่อง The Kitchen (2024) เดอะ คิทเช่น จะพาทุกท่านไปรับชมเรื่องราวในยุคสมัยของดิสโทเปีย ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่กำลังเจอปัญหาความเหลื่อมล้ำของสังคม ที่มีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อราคาที่พักอาศัยสูงขึ้นแบบสุด ๆ จึงทำให้ชนชั้นแรงงานต้องหนีออกไปอยู่ในแฟลต ที่มีสภาพแวดล้อมไม่ต่างกับสลัมเลย และหนึ่งในนั้นก็คือ เดอะ คิชเช่น เป็นสถานที่ อีซี ได้ปลีกตัวออกมาอยู่อาศัย และใช้ชีวิตแบบสันโดษ จนเขาได้มาเจอกับ เบนจิ เด็กผู้ชายในวัย 12 ที่พึ่งสูญเสียแม่อันเป็นที่รักไป จึงทำให้พวกเขากลายเป็นคู่หู คู่ใจ ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีเกิดขึ้นท่ามกลางความวุ่นวายของระบบทางสังคมที่ทับซ้อนกันอยู่ และหนังเรื่องนี้ยังเป็นผลงานชิ้นแรกของนักแสดงหนุ่ม ผู้เป็นเจ้าของรางวัลออสการ์ แดเนียล คาลูยา ที่ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างหนัง พร้อมกับทำการกำกับหนังเป็นครั้งแรกร่วมกับ คิบเว ทาวาเรซ รวมไปถึงการร่วมเขียนบทเป็นครั้งแรกกับ โจ เมอร์ทาก อีกด้วย ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมานั่นเป็นที่พึ่งพอใจอย่างมากของคาลูยา นอกจากนั้นภายในหนังยังเต็มไปด้วยการเสียดสีประเด็นทางสังคมไว้มากมาย ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงนำโดย คาโนะ เจไดห์ แบนเนอร์แมน และ โฮป อิคโพกุ จูเนียร์

ซึ่งถ้าหากดูเผิน ๆ ก็อาจทำให้ใครหลายหลายคนคิดว่า หนังเรื่องนี้เป็นหนัง SCI-FI ที่ซุกซ่อน และอัดแน่นไปด้วยพลังแห่งการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในโลกอนาคต แต่ทว่าเนื้อหาภายในเรื่องไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย เพราะการดำเนินเรื่องราวเป็นไปอย่างเรียบง่าย แต่ว่าทรงพลังมากกว่าที่คิดเอาไว้ เนื่องจากตัวหนังมีความดราม่า แถมยังเต็มไปด้วยมุมมองทางความคิดที่แตกต่าง และการสะท้อนความเหลื่อมล้ำทางสังคมในระดับชนชั้นได้อย่างชัดเจน จึงทำให้บรรยากาศภายในหนังอบอวลไปด้วยความเป็นอังกฤษแบบเน้น ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนว่าเราได้เข้าไปอยู่ในโลกดิสโทเปียของอังกฤษยังไงยังงั้น แค่มองก็รู้แล้วว่าเหตุการณ์เกิดที่ไหน หนังสร้างรายละเอียดในวันที่ฟ้าอึมครึมได้ดี ให้ความรู้สึกกับผู้ชมว่าเหมือนมีความชื้นอยู่ในอากาศ และฝนกำลังจะตก บวกกับสิ่งปลูกสร้างที่มาในสไตล์แฟลตที่พักอาศัย ซึ่งเป็นดีเทลที่โดดเด่นมาก ๆ เพราะเป็นเส้นแบ่งทางสังคมของอังกฤษที่ชัดเจน จึงทำให้องค์ประกอบต่าง ๆ ภายในหนังทำออกมาได้ดี มีความน่าสนใจมากเลยทีเดียว

ดังนั้นในภาพรวมของหนังเรื่องนี้จึงกลายเป็นหนังไซไฟ ผจญภัยที่มีผลลัพธ์เป็นสิ่งที่จะสะท้อนสภาพทางสังคมของอังกฤษได้อย่างชัดเจนจนน่าประหลาดใจ และอย่างน้อย ๆ ตัวหนังก็คงจะเป็นกระบอกเสียงของประชาชนที่ต้องพบเจอกับความเหลื่อมล้ำทางสังคม ส่วนทางด้านองค์ประกอบในหลาย ๆ อย่าง ตัวหนังก็ทำออกมาได้ดี บทดี เนื้อเรื่องดี นักแสดงดี สรุปแล้วเป็นหนังอีกเรื่องที่ควรค่าแก่การรับชมเป็นอย่างยิ่ง

คะแนนภาพรวม : 6.5 เต็ม 10 คะแนน