The Last Breath of Sam Yan (2023)
![ดูหนังออนไลน์ The Last Breath of Sam Yan (2023)](https://duckmovie24.com/wp-content/uploads/2024/06/The-Last-Breath-of-Sam-Yan-2023.jpg)
สำหรับ The Last Breath of Sam Yan (2023) เป็นสารคดีที่เกิดจากเหตุการณ์จริงในเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2563 เมื่อมีคำสั่งจากสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (PMCU) ให้ทำการรื้อถอน “ศาลเจ้าแม่ทับทิม สะพานเหลือง” สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และอยู่คู่กับผู้คนในชุมชนสามย่านมาเนิ่นนานมากกว่าร้อยปี เพื่อใช้พื้นที่ส่วนนั้นในการก่อสร้างตึกแทน อีกทั้งยังมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายที่มีมูลค่าสูงถึง 4.6 พันล้านบาทกับผู้ดูแลศาลอีกด้วย จนทำให้มีคนในชุมชนและคนรุ่นใหม่ออกมาต่อสู้กันเยอะมาก โดยหนังสารคดีเรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับ และเขียนบทโดย เปรมปพัทธ ผลิตผลการพิมพ์ แถมยังได้ เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล และ เสฏฐนันท์ ธนกิจโกเศรษฐ์ มาทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ในการดูแลการผลิตสารคดีให้อีกด้วย
แน่นอนว่าสารคดีเรื่องนี้เต็มไปด้วยเรื่องเล่าที่มีอารมณ์เดือดดาล และทรงพลังสุด ๆ เมื่อทุกคนที่เล่าเรื่องพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา ทั้งบทสนทนาที่เกิดจากความจริงอันน่าสงสัย และน่าตั้งคำถามมากมาย โดยเฉพาะทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่เลือกจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากประชาชนคนธรรมดาที่ครอบครัวของเขานั้นอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้มายาวนานหลายชั่วอายุคน เพราะสำหรับคนในชุมชนและเหล่าบรรดานักศึกษาแล้ว ศาลเจ้าแม่ทับทิมไม่ได้มีคุณค่าอยู่ที่จำนวนเงิน แต่ว่าศาลเจ้าแห่งนี้ช่วยสร้างความทรงจำดี ๆ รวมไปถึงสายสัมพันธ์อันดีงามระหว่างผู้คนกับสถานที่ได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถหาอะไรมาทดแทนได้เลย
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สิ่งที่ภาพยนตร์ให้ความสนใจก็คงจะเป็นประเด็นการแย่งชิงพื้นที่ในชั้นศาล ระหว่างเหล่าผู้ปกป้องศาลเจ้าแม่ทับทิม กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และภาพของศาลเจ้าที่ยังคงตั้งอยู่มาจวบจนถึงทุกวันนี้ ทำให้เรารู้ว่าสถานที่แห่งนี้ผ่านการต่อสู้ทุกรูปแบบ ที่ต่างคนก็ต่างรู้อยู่แล้วว่า สุดท้ายบทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เพราะผู้คนธรรมดามิอาจเอาชนะพวกทุนนิยมได้อย่างแน่นอน แต่ทว่าพวกเขาก็พยายามต่อสู้กับคำสั่งให้รื้อถอนศาลเจ้าอย่างเต็มที่ เพราะสำหรับนิสิต-นักศึกษา และประชาชนทุกคนในระแวกนั้นแล้ว ศาลเจ้าแม่ทับทิมเป็นเหมือนสถานที่ที่พวกเขามีไว้เพื่อสร้างความทรงจำ และเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจที่มีมาเนิ่นนาน จนไม่อาจลบภาพนั้นให้ออกไปจากใจได้
เพราะฉะนั้นเมื่อดูภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้จบแล้ว เราขอให้คะแนนภาพรวมอยู่ที่ 7.5 เต็ม 10 คะแนน เนื่องจากไม่ว่าจะเป็นองค์ประกอบโดยรวมทางด้านแสง สี เสียง และฉากต่าง ๆ ทางทีมงานก็ทำออกมาได้ดีมาก สร้างความประทับใจ และความทรงจำให้กับทุกคนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีการเล่าเรื่องราว และดำเนินเรื่องไปอย่างลื่นไหล ทุกคำพูดทำให้คนดูรู้สึกอินไปด้วย จนทำให้เราเกิดถามในใจว่า ทำไมพวกเขาถึงต้องรื้อถอนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ด้วย ดังนั้นใครที่ชอบดูหนังแนวสารดีอยู่แล้ว ก็ไม่ควรพลาดเด็ดขาด
ความคิดเห็น