The Look of Silence (2014) ฆาตกรเผยกาย
![ดูหนังออนไลน์ The Look of Silence (2014) ฆาตกรเผยกาย](https://duckmovie24.com/wp-content/uploads/2024/05/The-Look-of-Silence-2014-ฆาตกรเผยกาย.jpg)
The Look of Silence (2014) ฆาตกรเผยกาย เป็นภาพยนตร์สารคดี ที่ร่วมผลิตในระดับนานาชาติปี 2014 กำกับโดย โจชัว ออพเพนไฮเมอร์ เกี่ยวกับการสังหารหมู่ชาวอินโดนีเซียในปี 1965 – 1966 ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานร่วมของสารคดีปี 2012 เรื่อง The Act of Killing ผู้อำนวยการสร้างบริหาร ได้แก่ เวอร์เนอร์ เฮอร์ซ็อก, เออร์รอล มอร์ริส, และ อังเดร ซิงเกอร์
สารคดีเรื่องนี้กวาดรางวัลมาแล้ว 70 รางวัลทั่วโลก เข้าชิงรางวัลออสการ์ประจำปี ซึ่งเรื่องนี้เป็นสารคดีชั้นยอดในรอบหลายปี ทั้งเนื้อหาและวิธีการเล่าเรื่องที่ชวนให้ระทึกทุกครั้ง เนื่องจากเป็นการเปิดโปงโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของมนุษยชาติที่เกิดขึ้นอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งสารคดีเรื่องนี้จะเล่าเรื่องราวของการสังหารหมู่ประชาชนอินโดนีเซีย โดยมีผู้เสียชีวิตมากกว่าล้านคนในช่วงปี 2508 ถือเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่มีในประวัติศาสตร์ ซึ่งจะบอกเราเรื่องถึงบรรดาผู้นำทหารแกนนำ ได้เริ่มทำการรัฐประหารล้มล้างรัฐบาลพลเรือนที่ได้มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งการก่อรัฐประหารในครั้งนี้เริ่มต้นจากข้ออ้างที่จะต้องการปราบปรามคอมมิวนิสต์ในประเทศให้สิ้นซาก เนื่องจากคอมมิวนิสต์ได้มีการแผ่ขยายสมาชิกมากขึ้น จึงตามมาด้วยการสังหารหมู่ ฆ่าประชาชนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ และนำศพมาทิ้งในแม่น้ำจนเกิดเหตุการณ์ แม่น้ำกลายเป็นสายเลือด สารคดีในครั้งนี้ได้ผู้กำกับอย่าง โจชัว ออพเพนไฮเมอร์ เขาได้เริ่มต้นสร้างสารคดีเรื่องนี้ขึ้นมาเริ่มต้นด้วยการปล่อยให้อดีตมือสังหารหลายคน ที่เคยอยู่ในเหตุการณ์นั้น ซึ่งพวกเขาเหล่านั้น ได้มาบอกเล่าเหตุการณ์ที่ตัวเองได้ทำการฆ่าชาวบ้านอย่างสนุกสนาน โดยที่ไม่รู้สึกผิด ใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมบอกเล่าเหตุการณ์ด้วยคำพูดที่โอ้อวดว่า พวกเขาฆ่าชาวบ้านเหล่านั้นอย่างไร แทนที่จะเป็นการให้การแบบรู้สึกผิด พวกเขาได้บอกเล่าเหตุการณ์ในการฆ่า ไม่ว่าจะเป็นการ ตัดคอ แทงหลัง และถีบลงแม่น้ำ รวมไปถึงการฝังผู้คนแบบเป็น ๆ การใช้ลวดรัดคอ หรือใช้ไม้ทุบให้ตาย ออพเพนไฮเมอร์ ได้เล่าว่าในระหว่างการทำสารคดีนั้น มีอดีตนักฆ่าสองคนได้พาเขาลงไปดูจุดที่เกิดเหตุบริเวณริมแม่น้ำ ที่พวกเขาได้คร่าชีวิตคนรวมถึง 10,000 คนอย่างไม่รู้สึกผิด ซึ่งคนดำเนินเรื่องคือ อาดี รูกุน ในยุคนั้นพี่ชายของเขา หนึ่งในเหยื่อสังหารโหดเมื่อ 50 ปีก่อน เขาได้เริ่มต้นสัมภาษณ์นักฆ่าหลายคนที่เป็นอดีตนักเลงอันธพาลไปยังสถานที่ต่าง ๆ ติดตามการสัมภาษณ์ ซึ่งเขาบอกว่าส่วนใหญ่ แล้วพวกเขาเหล่านั้นให้สัมภาษณ์ด้วยความภาคภูมิใจ ในเหตุการณ์ครั้งนั้น โดยไม่มีความรู้สึกละอายต่อสิ่งที่ทำเลย ซึ่งแตกต่างจากผู้คนในพื้นที่ ที่เป็นเหยื่อเคราะห์ร้าย ที่รอดมาได้จนถึงปัจจุบัน บางคนยังคงนอนฝันร้ายมาตลอดทั้งชีวิต จากเหตุการณ์ในอดีต ในส่วนของนักฆ่าบางคน หลังจากที่ก่อเหตุการณ์ฆ่าตัดคอเหยื่อมาหลาย 10 เขาก็ได้เริ่มทรมานมากขึ้น เพื่อข่มขู่และเหยื่อบางคนก็ถูกตัดจู๋ และถูกทรมานจนตาย อีกทั้งมือสังหารได้เล่าว่าการฆาตกรรมในครั้งนี้ มีทหารอยู่เบื้องหลังบางคนก็เป็นพลเรือนในหมู่บ้าน มีการสั่งการให้กองกำลังติดอาวุธขึ้นมาเพื่อเข้ามาฆ่าคนในหมู่บ้าน ด้วยข้อหาว่าพวกเขาจะต่อต้านรัฐบาล การสัมภาษณ์เรื่องราวฆาตกรสุดโหดยังมีอีกหลายคน สามารถเข้าไปรับชมได้
หลังจากรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้จบ คะแนนที่ให้คือ 8/10 คะแนน การเล่าเรื่องของสารคดี ที่เป็นการบอกเล่าเรื่องราวผ่านน้องชายของหนึ่งในเหยื่อการสังหารโหด เข้าไปสัมภาษณ์นักฆ่าที่เคยอยู่ในเหตุการณ์ เป็นการตอกย้ำความรู้สึก ความสะเทือนใจของญาติเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกหดหู่ใจ เป็นสารคดีที่ชวนอึดอัดที่สุดแทบหายใจไม่ออก ด้วยสีหน้าของการเล่าเรื่องจากฆาตกรจริง ๆ ที่เขาไม่มีความรู้สึกผิดใด ๆ ทั้งสิ้น การเข่นฆ่าผู้คนอย่างโหดเหี้ยม และขอชื่นชมผู้กำกับอย่าง ออพเพนไฮเมอร์ ที่ยังคงยกเรื่องราวประวัติศาสตร์อันโหดร้ายนี้มาขยี้อีกครั้ง เรียกได้ว่าขุดให้ถึงแก่นของความเป็นมนุษย์ จิตสำนึกที่ควรจะมีต่อมนุษย์ด้วยกันความดำมืดของการเมือง จากคนที่อยู่เหนือกว่าด้วยอำนาจ
ความคิดเห็น