The Omen (2006) อาถรรพณ์กำเนิดซาตานล้างโลก
ภาพยนตร์แนวระทึกขวัญ / สยองขวัญ เรื่อง The Omen (2006) อาถรรพณ์กำเนิดซาตานล้างโลก กำกับการแสดงโดย จอห์น มัวร์ นักแสดงนำ ไลฟ์ ชไรเบอร์, จูเลีย สไตล์ส, มีอา แอร์โรว์, เดวิด ทิวลิส, ปีเตอร์ โพสต์เลทไวท์ เรื่องราวของครอบครัวที่ตัดสินใจรับเด็กกำพร้ามาเลี้ยง เนื่องจากพวกเขาสูญเสียลูกชายของตัวเองไปอย่างกะทันหันในขณะที่คลอด แต่เหมือนว่าการรับเลี้ยงในครั้งนี้ทำให้พวกเขาต้องพบกับเด็กกำพร้าที่จะมาทำให้ชีวิตของทั้งคู่เปลี่ยนไปตลอดกาล
เริ่มต้นในคืนหนึ่งที่แคเทอรีนให้กำเนิดลูกชายในโรงพยาบาลในอิตาลี แต่แท้จริงแล้วลูกชายของเธอได้ตายทันทีหลังคลอด โรเบิร์ต ธอร์น สามีของเธอซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่การทูต ได้รับการเสนอให้รับเด็กอีกคนที่แม่ของมันเสียชีวิตหลังคลอดมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม โดยแคเทอรีนไม่รู้ถึงความตายของลูกชายแท้จริง โรเบิร์ตตั้งชื่อบุตรบุญธรรมว่าเดเมี่ยนและเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เดเมี่ยนเติบโตมาโดยไม่เคยป่วย มีนิสัยเงียบและมีสายตาแข็งกร้าว หลังจากที่เอกอัครราชทูตที่จะไปประจำที่ลอนดอนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุอย่างกะทันหัน โรเบิร์ตจึงได้รับการเลื่อนตำแหน่งและย้ายไปอยู่ที่อังกฤษพร้อมกับแคเทอรีนและเดเมี่ยนในอังกฤษ เหตุการณ์ลี้ลับและเหนือธรรมชาติเริ่มเกิดขึ้น ผู้ที่ใกล้ชิดกับตระกูลธอร์นเริ่มตายในสถานการณ์ที่น่าแปลกและโหดร้าย รวมถึงพี่เลี้ยงของเดเมี่ยนที่ผูกคอตายต่อหน้าสาธารณะ โรเบิร์ตถูกเตือนโดยหลายคนว่าเดเมี่ยนมีส่วนเกี่ยวข้องกับอำนาจมืด ซึ่งเขามองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะตัวของเขาเองก็ไม่ได้มีความเชื่อหรือศรัทธาในพระเจ้า แต่แล้วก็เกิดเรื่องราวแปลก ๆ ที่ทำให้โรเบิร์ตต้องกันมาคิดอีกครั้ง พร้อมกับได้เผชิญหน้ากับความจริงบางอย่างว่าเด็กที่เขารับเลี้ยงมานั้นกลับกลายไม่ใช่เด็กธธรมดาอย่างที่เขาคิด เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อจากนี้โรเบิร์ตและครอบครัวจะฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านี้ได้หรือไม่ ร่วมกันติดตามกันต่อในหนังเต็มกันได้เลย
โดยส่วนตัวคิดว่าหนังเรื่องนี้มีสูตรการเล่าเรื่องแบบเหมือนหนังเรื่องอื่น ๆ ที่จะเล่นกับความเชื่อ ซาตาน โดยเป็นการเล่าที่อ้างอิงจากคำทำนายในพระคัมภีร์ ด้านงานฉากต้องบอกเลยว่าชอบการเกลี่ยสีของหนังมาก ๆ ทำให้โทนของหนังดูหม่นและเพิ่มความตึงเครียดให้กับตัวหนังได้เป็นอย่างดีเลยก็ว่าได้ บวกกับตัวละครเอกอย่างเด็กที่รับบทเป็นเดเมี่ยนก็เล่นได้สมจริง ถือว่าเก่งมาก ๆ โดยส่วนใหญ่หนังเรื่องนี้จะเน้นเรื่องของการสื่อสารทางสายตา ซึ่งก็ทำออกมาได้ดี ภาพรวมถือว่าเป็นหนังสยองขวัญที่เน้นการเล่นกับใจคนดู ไม่ได้มีฉากผี ๆ หรือฉากสร้างความตกใจอะไรมาก แต่ก็เขย่าขวัญให้ได้ไม่น้อยเลย ภาพรวมของหนังเราจะให้คะแนนอยู่ที่ 9/10
ความคิดเห็น