The Point Men (2023) ล็อคเป้าตาย ค่าไถ่หยุดโลก
หนังเรื่อง The Point Men (2023) ล็อคเป้าตาย ค่าไถ่หยุดโลก เป็นหนังเกาหลีแนวแอ็กชัน อาชญากรรม ระทึกขวัญ สงคราม อำนวยการสร้างโดย ชิน บอม-ซู และ นัม จอง-อิล เขียนบทโดย อัน ยอง-ซู ตัดต่อภาพโดย คิม ซุน-มิน กำกับการแสดงโดย อิม ซุน-รเย มาพร้อมกับนักแสดงนำมากมาย ได้แก่ ฮวางจองมิน รับบทเป็น จอง แจ โฮ (นักการทูตฝีมือดี), คิม แท-พยอง รับบทเป็น พัค แด-ซิก (เจ้าหน้าที่สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติแห่งเกาหลีใต้ NIS), และ คังกียอง รับบทเป็น คาซิม หรือ อี บง-ฮัน
เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในปี 2007 ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านนักการทูตฝีมือดีที่ชื่อว่า จอง แจ โฮ เขาได้รับมอบหมายจากรัฐบาลเกาหลีใต้ให้มาทำงานร่วมกับ พัค แด-ซิก ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติแห่งเกาหลีใต้เพื่อช่วยเหลือตัวประกันที่ถูกกลุ่มตาลีบันจับตัวไปอยู่ในประเทศอัฟกานิสถาน เขาจึงเดินทางไปขอความร่วมมือเจรจากับรัฐบาลอัฟกานิสถานและพยายามทำทุกอย่างให้ตัวประกันที่ถูกจับอยู่ปลอดภัย แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือใด ๆ เลย จึงทำให้แผนที่พวกเขาวางไว้ตั้งแต่แรกพังหมด พวกเขาจึงหาทางเข้าใกล้ตัวกลุ่มตาลีบันให้มากที่สุด แต่พอเข้าใกล้ คนกลุ่มนี้กลับฆ่าตัวประกันรายแรกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเขาจึงต้องวางแผนใหม่ และเร่งช่วยเหลือตัวประกันทุกคนที่เหลืออยู่ให้ปลอดภัยจากกลุ่มก่อการร้ายนี้อย่างเร็วที่สุด เพราะศพรายต่อไปจะตามมาติด ๆ ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อนั้น จอง แจ โฮ กับ พัค แด-ซิก จะสามารถช่วยเหลือตัวประกันทั้งหมดจนส่งตัวกลับบ้านที่ประเทศเกาหลีได้สำเร็จหรือไม่ และจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นระหว่างที่พวกเขาเข้าไปช่วยเหลือตัวประกัน เชิญทุกคนมาลุ้นติดตามไปพร้อมกันได้ที่นี่เลย
หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว ขอสรุปว่านี่คือหนังแอ็กชัน อาชญากรรม ระทึกขวัญ สงครามที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในประเทศเกาหลีใต้เมื่อปี 2007 ผ่านตัวละครหลักของเรื่อง โดยมีกลุ่มก่อการร้ายตาลีบันเข้ามาจับตัวชาวเกาหลีเป็นตัวประกันจำนวน 23 คนไปอยู่ในประเทศอัฟกานิสถาน และด้วยเหตุนี้จึงต้องมีนักการทูต และเจ้าหน้าที่สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติของเกาหลีใต้ที่ช่ำชองในแถบพื้นที่อาหรับเข้ามามีบทบาทในการช่วยเหลือต่อสู้ไปด้วยกัน จนสามารถนำตัวประกันทุกคนกลับบ้านในประเทศเกาหลีใต้ได้ในที่สุด แต่ระหว่างทางอาจจะมีอุปสรรคบ้างเล็กน้อย เพราะเกิดการต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงตัวประกัน สำหรับพล็อตเรื่องถือว่าพอใช้ได้อยู่ จุดเด่นของหนังมีหลายอย่างเลยคือ การจัดวางมุมกล้องทำออกมาได้ดีมาก ซึ่งจุดนี้ช่วยให้งานภาพถ่ายออกมาสวยงาม นอกจากนี้หนังยังใช้สถานที่จริงในการถ่ายทำ จึงทำให้ทุกอย่างทำออกมาสมจริง และสมบูรณ์แบบมาก ส่วนตัวมองว่าเป็นหนังที่เน้นการเจรจาต่อรองเพื่อขอความร่วมมือจากรัฐบาลอัฟกานิสถานให้เข้ามาช่วยเหลือเพื่อนำตัวประกันออกมามากกว่าต่อสู้กันอย่างดุเดือด ซึ่งหนังนำแสดงโดย ฮวางจองมิน เขาก็แสดงได้สมบทบาทนักการทูตด้านเจรจามาก รวมทั้ง คิม แท-พยอง ที่เป็นเจ้าหน้าที่ภาคสนามมีความช่ำชองในพื้นที่อาหรับก็แสดงดีเช่นกัน ส่วน คังกียอง ก็เล่นได้ดีไม่มีที่ติ ในทางตรงกันข้ามจุดด้อยของหนังคือ มีฉากแอ็กชันน้อยมากทั้งที่เป็นหนังแอ็กชัน จุดนี้คนที่เป็นคอหนังแอ็กชันอาจจะไม่ค่อยชื่นชอบสักเท่าไร และการดำเนินเรื่องรวมทั้งการวางปมปริศนาให้กับตัวละครยังทำออกมาได้ไม่ดี แถมยังสร้างบทหนังให้ คิม แท-พยอง แสดงได้น้อยมากทั้งที่เขาเป็นตัวละครหลักของเรื่อง ส่วนตอนจบรู้สึกว่าง่ายไป และคนดูไม่อินกับตัวละคร เพราะไม่มีฉากเรียกน้ำตาสักนิด ซึ่งความจริงตัวประกันถูกจับลักพาตัวแล้วนำส่งกลับบ้านต้องมีฉากสะเทือนใจสักหน่อยน่าจะดีกว่านี้ สุดท้ายคือเทคนิคแสง สีลงตัว ฉากบู๊น้อย บรรยากาศสมจริง และองค์ประกอบอื่น ๆ โดยรวมของหนังพอใช้ได้ ดังนั้นคะแนนภาพรวมเราให้อยู่ที่ 6 เต็ม 10 คะแนน
ความคิดเห็น