เสียง : Sound Track

7

หนังเรื่อง The Wild Blade of Strangers (2024) นักดาบคนแปลกหน้า เป็นหนังจีนแนวแอ็กชัน แฟนตาซี กำกับการแสดงโดย หลี่ เว่ย มาพร้อมกับนักแสดงนำมากมาย ได้แก่ แม็กซ์ จาง, ลี เกิ้ง, เซี่ย เมิ่ง, เจียง ลู่ เซี่ย, หลิว ฮัว, หลิว เฟิง เฉา, จู ซื่อ เหมา, และ เฟิง เล่ย
เป็นเรื่องราวของผู้นำกองทัพดาบโม่ที่ชื่อว่า เทียน อันเย่ เขามีหน้าที่คอยปกป้องประเทศพร้อมกับปกป้องชายแดนไปในเวลาเดียวกัน เมื่อศัตรูผ่านเข้ามาเมื่อไหร่เขาก็พร้อมรบแล้วสังหารบุคคลนั้นทันที นอกจากนี้เขายังมีส่วนร่วมในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจจากความชอบธรรมของทายาทในชั้นศาลด้วย ขณะนั้นเขาก็ทำงานประจำการอยู่ที่เมืองเหลียง จู่ ๆ ก็มีคนในพื้นที่แห่งนี้ถูกสังหารหมู่ จึงทำให้สหายของกองทัพดาบโม่เสียชีวิตลงมากกว่าสามร้อยคน จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทำให้เขารู้สึกท้อแท้เป็นอย่างมาก และเขาเลยยอมกลับไปใช้ชีวิตสันโดษอยู่บริเวณนอกเมืองลั่วหยาง โดยการเป็นพ่อค้าขายถ่านเพื่อเลี้ยงตัวเองไปวัน ๆ ส่วนอีกมุมหนึ่งนั้นจักรพรรดิองค์ใหม่ก็กำลังจะเตรียมขึ้นครองบัลลังก์ ต่อมาเขาจึงออกเดินทางไปขายถ่านและบังเอิญได้เข้าไปช่วยชีวิตของหญิงสาวรายหนึ่งพร้อมทารกน้อย เนื่องจากเธอถูกตามล่าและเขาไม่รู้ว่าทารกน้อยจะเป็นเลือดเนื้อของมงกุฏราชกุมารองค์ก่อนที่ถูกสังหารไป หลังจาก ยี่ เฟยจวิน รู้ข่าวจึงออกมาปรากฏตัว และไม่นานเทียน อันเย่ที่ได้ตัดสินใจเรื่องเส้นทางชีวิตที่เหลืออยู่ของตนเองเรียบร้อยแล้ว จึงหาหนทางปลุกปั่นพายุในเมืองลั่วหยางขึ้นมาอีกครั้ง หากใครอยากรู้ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อนั้นสามารถเข้ามาติดตามรับชมไปพร้อมกันได้ที่นี่เลย

หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ขอสรุปว่าเป็นหนังแอ็กชัน แฟนตาซีที่ถ่ายทอดเรื่องราวของผู้นำกองทัพดาบโม่ ที่มีหน้าที่อันยิ่งใหญ่คอยดูแลและปกป้องประเทศ แล้วก็ชายแดนไม่ให้บุคคลอื่นเข้ามาลุกล้ำ ขณะเดียวกันเขาก็ต้องต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจในชั้นศาล สำหรับพล็อตเรื่องถือว่าว่างออกมาดีใช้ได้ มีการดำเนินเรื่องไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย ส่วนเทคนิคเกี่ยวกับงานภาพสร้างรวมไปถึงเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมดูเข้ากับบรรยากาศภายในหนังเป็นอย่างดี จึงทำให้มีความสมจริงมากยิ่งขึ้น ขณะที่การแสดงของนักแสดงนำทั้งหมดต่างมีฝีมือที่เก่งกาจในด้านการบู๊ อีกอย่างที่สังเกตได้คือ มีการนำอาวุธอย่างดาบเข้ามาใช้ร่วมด้วย จุดนี้ทำให้หนังแตกต่างจากเรื่องอื่นอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ยังมีจุดด้อยเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นกัน ที่เห็นชัดคงเป็นเรื่องเทคนิค การวางโทนสีฉากที่มืดมนจนทำให้ดูกลมกลืนไปกับบรรยากาศ ขณะดำเนินเรื่องแถมชวนให้คนดูไม่รู้เรื่องด้วย เพราะพื้นหลังฉากมันมืดเป็นระยะกลบทุกอย่างหมดเลย จริง ๆ ถ้าทำออกมาให้ดีกว่านี้จะช่วยยกระดับคุณภาพของหนังให้สูงมากขึ้น โดยรวมของหนังถือว่าไม่ได้แย่ คะแนนภาพรวมทั้งหมดเราให้อยู่ที่ 7 เต็ม 10 คะแนน