เสียง : ไทย

6.5

หนังญี่ปุ่น Tokyo Revengers 2 Part 2 Bloody Halloween Final Battle (2023) โตเกียว รีเวนเจอร์ส ฮาโลวีนสีเลือด ประเภท แอ็กชัน / ต่อสู้ กำกับการแสดง ซึโตมุ อานาบูสะ นักแสดงนำ ทากูมิ คิตะบูระ, ยูคิ ยามาดะ, เรียว โยชิซาวะ, นิจิโระ มุราคามิ เรื่องราวภาคต่อกับศึกต่อสู้ระหว่างแก๊ง และการปกป้องคนรักของ ทาคามิจิ ให้รอดชะตากรรมอันเลวร้ายนี้ไปให้ได้
จากความเดิมในภาคที่แล้ว ทาคามิจิ ต้องการที่จะแก้ไขทาร์มไลน์เวลาทั้งหมด เพราะดาร์เค็นได้บอกไว้ว่า เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นมาจากไมกี้ โดยศึกการต่อสู้ครั้งนี้จะมีคนตาย เป็นสิ่งที่ย้ำเตือนให้มาคามิจิรู้เอาไว้ว่า หากเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ การตายของคนรักเขาก็ยังจะดำเนินอยู่แน่นอน ทาคามิจิส่งมือไปให้นาโอโตะ น้อยชายของคนรักเขาพาย้อนเวลากันไปช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ร้ายเมื่อ 12 ปีที่แล้ว เมื่อย้อนเวลากลับมา ทาคามิจิมีความสุขมาก ๆ ในช่วงเวลาที่มีแฟนตัวเองอยู่ แต่เขาก็ต้องไม่ลืมภารกิจที่ย้อนเวลากลับในครั้งนี้ เขาเห็นว่าไอ้แว่นตัวต้นเรื่องกำลังนั่งประชุมลับ ๆ มาคามิจิไม่รอช้ารีบพุ่งตัวเข้าไปทันที เพราะเขารู้ดีว่ามันคือ จุดเริ่มต้นที่ทำให้แก๊งของเขาต้องแตกหัก ทางด้านทาคามิจิได้บอกความต้องการของตัวเองว่าเขาต้องการที่จะท้าสู้กับไอ้แว่น จะล้มไอ้แว่นให้ทุกคนได้ดู พร้อมบอกอีกว่าเขาต้องการขับไล่ไอ้แว่นออกจากแก๊งไป ทางฝั่งไอ้แว่นรู้สึกทึ่งกับสิ่งที่ทาคามิจิพูดเป็นอย่างมาก หลังจากที่การต่อสู่กำลังเริ่มต้นขึ้น พวกวาฮาราได้บุกเข้ามาก่อนนัดต่อสู้จริง เพื่อต้องการตัดกำลังของแก๊งไอ้แว่น ตอนนี้เหตุการณ์เริ่มวุ่นวาย เนื่องจากทั้งสองแก๊งได้เปิดฉากต่อสู้กันอย่างดุเดือด ทางด้านมาคามิจิรู้สึกส่งสัยในตัวไอ้แว่น ว่าที่แท้จริงแล้วมันเป็นคนดีหรือคนร้ายกันแน่ เพราะจู่ ๆ ไอ้แว่นได้เข้ามาช่วยมาคามิจิเอาไว้ ในขณะที่เขากำลังเสียท่า พร้อมบอกให้ทางด้านทาคามิจิให้รีบหนีออกจากสนามนี้ไปซะ เขารู้สึกงงกับเหตุการณ์ตรงหน้าเป็นอย่างมาก หลังจากที่ทุกคนในแก๊งโตมันวิ่งหนีออกมา ภาพตัดไปที่ไอ้แว่นที่โดนล้อมไปด้วยแก๊งวาฮารา มันยิ้มออกมาแบบมีเลสนัยเหมือนว่าการต่อสู้ในครั้งนี้ เป็นการวางแผนของมันเลยทั้งหมด เรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไร ทางด้านทาคามิจิจะสามารถเอาชนะศึก ปกป้องคนรักของตัวเองได้หรือไม่ ติดตามได้ในหนังเต็มกันเลย
เรียกว่าเป็นภาคจบของหนังซีรี่ส์เรื่องนี้เลย ในภาคนี้ค่อนข้างไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากพาร์ทแรกเท่าไรนัก จะเน้นไปเรื่องของฉากต่อสู้เสียมากกว่า เรื่องของบทตัวละครก็เบาบางมาก ๆ ตัดมาอย่างละนิดละหน่อยเท่านั้นเอง เหมือนหนังยังไม่ได้ให้พื้นที่ให้คนดูอินกับตัวละครเท่าไร เวลาดูจึงรู้สึกไม่เข้าใจการตัดสินใจของตัวละคร นอกจากนี้ตัวบทเหมือนจะรีบ ๆ ยัดตอนจบสรุปเรื่องแบบง่าย ๆ ไม่มีคำอธิบายเพิ่มเติมในเหตุการณ์ต่าง ๆ รวม ๆ บอกเลยว่าหนังเรื่องนี้จืดชืดแบบไม่สมเหตุสมผลสุด ๆ ขอให้คะแนนหนังอยู่ที่ 4.5/10